“เคจีไอ” แนะหุ้นเด่น ส.ค. ชู SPRC-TOP-OSP-SYNEX-ITC น่าลงทุน

บล.เคจีไอ แนะหุ้นเด่นสิงหาคม 2568 ได้แก่ SPRC, TOP, OSP, SYNEX และ ITC โดยชูปัจจัยบวกจากราคาน้ำมัน การบริหารต้นทุน และโอกาสขยายตลาดส่งออก คาดเติบโตดีในครึ่งปีหลัง เป็นโอกาสลงทุนที่น่าสนใจในตลาดหุ้นไทย


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เดือนกรกฎาคม 2568 ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้ 1.) ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกดูดีขึ้น หลังจากที่สหรัฐทยอยประกาศข้อตกลงทางการค้ากับประเทศหลัก ๆ

2.) นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าประเทศไทยจะทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ก่อนเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม โดยน่าจะสามารถลดอัตราภาษีตอบโตลงได้จากปัจจุบันที่ 36%

3.) มีการเก็งกำไรในหุ้นที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเลือกนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ ซึ่งตลาดมองว่าน่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินของไทยลงอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ บล.เคจีไอ มีมุมมองต่อตลาดหุ้นในเดือนสิงหาคม น่าจะเทรดไซด์เวย์แต่ยกฐานสูงขึ้น โดยการเมืองไทยจะกลับมาเป็นความเสียงหลักของตลาด โดยนักวิเคราะห์มองว่าโมเมนตัมการขยับขึ้นของดัชนี SET น่าจะชะลอตัวลงในเดือนสิงหาคม และเคลื่อนไหวในกรอบแคบบนฐานที่สูงขึ้น

อีกทั้ง ดัชนี SET เหลือ upside ถึงเป้าปีนี้ของนักวิเคราะห์ที่ 1,283 จุดอีกไม่มากแล้ว และนักวิเคราะห์ยังมองว่ามีโอกาสน้อยที่จะเห็นการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของหุ้นกลุ่มหลัก ในประการที่สอง ตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะตอบรับปัจจัยบวกหลัก ๆ ไปแล้ว อย่างเช่น ความหวังว่าประเทศไทยจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่ดีขึ้นกับสหรัฐ และแนวโน้มนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงหลังจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่เข้ามารับตำเเหน่งในเดือนตุลาคม 2568 ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังมองว่าสถานการณ์การเมืองไทยจะร้อนแรงขึ้นอีกครั้งในเดือนสิงหาคม และ อาจจะทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น

บล.เคจีไอ แนะหุ้นเด่นเดือนสิงหาดม SPRC, TOP, OSP, SYNEX และ ITC

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ถึงแม้นักวิเคราะห์จะคาคว่า SPRC จะขาดทุนสุทธิประมาณการผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 แต่นักลงทุนน่าจะมองข้ามผลประกอบการที่อ่อนแอในงวดนี้ไป และ ให้ความสนใจกับค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งในงวดประมารณการณ์ครึ่งหลังปี 2568 แทนเนื่องจากมีการปิดโรงกลั่นทั่วโลกไปในปีนี้นี้คิดเป็นกำลังการผลิตรวมประมาณ 840,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งน่าจะกระทบกับอุปทานน้ำมันดีเซลอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ทางนักวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ “ชื้อ” เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดว่าค่าการกลั่นจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อนหน้า จาก ประมาณการผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 เพราะมีการปิดโรงกลั่นทั่วโลกไปในปีนี้คิดเป็นกำลังการผลิตรวมประมาณ 840,000 บาร์เรลต่อวัน และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 7.0% ในปี 2568 ตามคาดการณ์ และ 10.2% ในปี 2569 ตามคาดการณ์ อิงจากราคาล่าสุด

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ทางนักวิเคราะห์ยังคงมองบวกกับ OSP เพราะกำไรประมาณการผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 น่าจะออกมาดีเกินคาด จาก GPM ที่สูงเป็นประวัติการณ์ เพราะการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ product nix ดีขึ้น ถึงแม้ว่ายอดขายเครื่องดื่มในต่างประเทศจะแผ่วตามดูดูกาล แต่ยอดขายในประเทศยังน่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อนหน้า และ ช่วยหนุนให้กำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในประมาณการผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568

บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ทางนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรปกติของ SYNEX ในประมาณการผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 จะอยู่ที่ 168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน, เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้กำไรปกติในงวดครึ่งแรกปี 2568 ตามคาดการณ์ อยู่ที่ 319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรเต็มปีของนักวิเคราะห์ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าหุ่น SIVEX จะได้แรงหนุนในครึ่งหลังปี 2568 ตามคาดการณ์ จากการที่กำไรปกติปีนี้มีแนวโน้มจะ โตตามคาดที่ 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 13.00 บาทยังมี upside อีก 15%

บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC จากข้อมูลที่นักวิเคราะห์ได้จากงบการเงินในปี 2567 และหมายเหตุประกอบงบ การส่งออกไปยังสหรัฐและ แคนาคาคิดเป็น 50% ของรายได้รวมของ ITC ดังนั้น นักวิเคราะห์จึงมองว่าข้อตกลงทางการค้าไทย-สหรัฐซึ่งน่าจะประกาศออกมาในเร็ว ๆ นี้จะเป็นบวกกับผู้ส่งออกในกลุ่ม F&B และ อาหารสัตว์เลี้ยง

Back to top button