
WTI ร่วงแตะ 67 เหรียญ หลัง “โอเปกพลัส” มีมติ ก.ย. เพิ่มผลิตน้ำมัน 5.4 แสนบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันโลกกลับมาเผชิญแรงกดดันอีกครั้ง หลังโอเปกพลัสมีมติเพิ่มอุปทาน เริ่มกันยายน 2568 สะท้อนทิศทางนโยบายที่พยายามคุมสมดุลตลาด ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ส.ค. 68) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (OPEC+) มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตอีก 547,000 บาร์เรลต่อวัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้
ข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 06.44 น. ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบ WTI สัญญาส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 0.40 ดอลลาร์ หรือ -0.59% มาอยู่ที่ 66.93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) อยู่ที่ 69.24 ดอลลาร์ ลดลง 0.43 ดอลลาร์ หรือ -0.62% ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
มติของ OPEC+ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา สะท้อนความเห็นพ้องของประเทศสมาชิก นำโดยซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย และพันธมิตร ที่ต้องการเพิ่มอุปทานเข้าสู่ตลาด เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการค้าและรองรับแนวโน้มการบริโภคที่ยังไม่แน่นอน
นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets คาดว่า ตลาดสามารถรองรับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น โดยที่ราคายังไม่ร่วงแรงนัก เนื่องจากโครงสร้างตลาดยังแข็งแกร่ง และปริมาณสำรองน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ
ด้าน Amrita Sen จาก Energy Aspects ชี้ว่า งานต่อไปของ OPEC+ จะยากขึ้น โดยเฉพาะการจับจังหวะพลิกนโยบายในภาวะที่ภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง
สำหรับผลกระทบต่อไทย คาดว่าเมื่อราคาน้ำมันโลกปรับลดจากการเพิ่มอุปทาน จะส่งผลให้ราคาขายปลีกในประเทศมีแนวโน้มลดลงตาม ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอาจกดดันต้นทุนนำเข้าน้ำมัน ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ จะช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและต้นทุนภาคการผลิตในระยะสั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
WTI ปิดร่วง 1.93 เหรียญ กังวล “โอเปกพลัส” บรรลุข้อตกลงเพิ่มการผลิต ก.ย. ดันซัพพลายพุ่ง