ฝรั่งถือหุ้นไทยเท่าไหร่

วานนี้นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทยอีก 2,609 ล้านบาท และหากนับจากวันที่ 7 ก.ค.ที่ต่างชาติเริ่มซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องมาจนถึงวานนี้ (4 ส.ค.)


วานนี้นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทยอีก 2,609 ล้านบาท

และหากนับจากวันที่ 7 ก.ค.ที่ต่างชาติเริ่มซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องมาจนถึงวานนี้ (4 ส.ค.) พวกเขาซื้อหุ้นไทยรวมกันกว่า 22,044 ล้านบาท

การเข้ามาของต่างชาติ ช่วยดันหุ้นไทยขึ้นมาแล้ว (นับจาก 7 ก.ค.) 106 จุด

ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขึ้นมาอยู่ที่ 15.08 ล้านล้านบาท

หลังการเข้ามาของต่างชาติ

ล่าสุดมีข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่เป็นการสำรวจโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทยสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568

และพบว่า นักลงทุนในประเทศยังคงเป็นกลุ่มที่ถือครองหุ้นในสัดส่วนมูลค่าสูงสุด

ส่วนนักลงทุนต่างประเทศถือครองราว 1 ใน 3 ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด

จากการศึกษาข้อมูลบริษัทจดทะเบียน 854 แห่ง ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 13.43 ล้านล้านบาท หรือ 97.89% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด พบข้อสรุปที่น่าสนใจ

นั่นคือ นักลงทุนในประเทศ ถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดที่ 45.05% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวม แบ่งเป็นนักลงทุนรายย่อย 25.68% และกลุ่มนิติบุคคลอื่น ๆ 19.37%

นักลงทุนต่างประเทศ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นอยู่ที่ 32.99%

นักลงทุนสถาบันในประเทศ ถือครองหุ้น 21.81%

บริษัทหลักทรัพย์ ถือครองเพียง 0.15%

และเมื่อพิจารณาตามสัญชาติ พบว่า 67.01% ของมูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นการถือครองโดยนักลงทุนไทย และอีก 32.99% ถือครองโดยนักลงทุนต่างประเทศ

การสำรวจยังพบว่า 66.92% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็นประเภท Local Shares (หุ้นสามัญทั่วไป)

สอดคล้องกับสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนไทย

ส่วนอีก 33.08% เป็น Foreign Shares และ NVDR (Non-Voting Depositary Receipt)

สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่มีความเข้าใจและเลือกถือครองหุ้นตรงตามสิทธิประโยชน์ เพื่อให้ได้รับสิทธิในการออกเสียงและสิทธิประโยชน์ทางการเงินอย่างครบถ้วน

ผลสรุป….

รายงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ บอกอีกว่า จากการศึกษาโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2568 ยังคงมีทิศทางและสัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

และยังพบอีกว่า โดยรวมแล้วนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามประเภทหลักทรัพย์

สังเกตได้จากการเลือกถือครองหุ้นตรงตามสิทธิทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นครบถ้วน

แม้ในรายงานล่าสุดของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่ได้มีการเทียบสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติอที่ลงทุนหุ้นไทยในช่วงก่อนหน้าว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพิ่มหรือลดลงอย่างไร

แต่จากการประเมินของนักวิเคราะห์ต่างมองไปในทิศทางเดียวกัน

นั่นคือ ในช่วงของเดือนสิงหาคม 2568 ต่างชาติน่าจะยังเข้าลงทุนในหุ้นไทยต่อเนื่อง

เพียงแต่ว่าอาจจะมีสลับขายทำกำไรออกมาบ้าง

พร้อมกับปรับเข้าลงทุนในหุ้นอื่นที่ราคายังแลกการ์ด แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม SET50  เช่น กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า ค้าปลีก และรวมถึงกลุ่มธนาคารเช่น KBANK และ BBL

นับจากต้นปี 2568 มาจนถึงวานนี้

ต่างชาติยังมีตัวเลขขายสุทธิหุ้นไทยประมาณ 61,839 ล้านบาท

ต้องมาลุ้นกันว่า ฝรั่งจะซื้อแบบแรลลี่

กระทั่งพลิกกลับมาซื้อสุทธิในช่วงสิ้นปี 2568 นี้หรือเปล่า

Back to top button