“ดาวโจนส์” ปิดลบ 61 จุด นักลงทุนรอตัวเลข “เงินเฟ้อ” ชี้ทางดอกเบี้ยเฟด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีทั้งสามปิดลบยกแผง นักลงทุนชะลอการลงทุน รอข้อมูล CPI–PPI ปลายสัปดาห์ หวังส่งสัญญาณดอกเบี้ยเฟด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลดลงในวันอังคาร (5 ส.ค.68) โดยดัชนีหลักทั้งสามเคลื่อนไหวในแดนลบ ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ชะลอตัว เนื่องจากนักลงทุนรอประเมินข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งจะเปิดเผยในช่วงปลายสัปดาห์นี้

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,111.74 จุด ลดลง 90 จุด หรือ –0.14%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,299.19 จุด ลดลง 75 จุด หรือ –0.49%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 20,916.55 จุด ลดลง 03 จุด หรือ –0.65%

นักลงทุนชะลอการเก็งกำไรก่อนการเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) จะใช้ประกอบการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน

ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ เช่น Apple, Alphabet และ Microsoft

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน แม้รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นหลายระลอก โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และการบริโภคภายในประเทศ

ขณะเดียวกัน แนวโน้มอุปสงค์ทั่วโลกยังคงอ่อนแรง จากผลกระทบของดอกเบี้ยสูงในหลายประเทศและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด

ด้านนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บ “ภาษีเพียงเล็กน้อย” กับ “ยานำเข้า” ก่อนทยอยเพิ่มเป็น 150% ภายใน 1–1.5 ปี และอาจขยับสูงสุดถึง 250% เพื่อดึงการผลิตกลับประเทศ แต่ทั้งนี้ยังไม่ประกาศอัตราเริ่มต้นและไทม์ไลน์บังคับใช้ชัดเจน

Back to top button