“ฐกฤต” ลุ้น SET สัปดาห์นี้ทดสอบ 1,280 จุด ชูหุ้นโรงไฟฟ้า-ไฟแนนซ์ เด่น

นายฐกฤต คาด SET สัปดาห์นี้มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,280 จุด พร้อมชูกลยุทธ์ลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้า-ไฟแนนซ์อย่าง GULF และ KTC เด่นสุด ลุ้นกนง.ปรับลดดอกเบี้ยบ่ายนี้ พ่วง PTTGC รับข่าวจีนสหรัฐยืดเวลาเก็บภาษี 90 วัน


นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ถึงมุมมองตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (13 สิงหาคม 2568) ว่าหากมองไปที่ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยรวมถือว่าค่อนข้างเป็นบวกฝั่งสหรัฐตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม จนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมามีการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังมีข่าวว่า สหรัฐ-จีน ขยายระยะเวลาผ่อนผันภาษีไปจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568

นอกจากนี้สหรัฐยังกลับมาอนุญาตให้บริษัท Nvidia และ AMD ส่งออกชิปให้กับจีน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันข้อมูลจากไต้หวันเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ระบุว่า TSMC บริษัทผลิตชิปรายใหญ่มียอดขายเพิ่มขึ้น

ส่วนมองกลับมาที่ SET Index มีโอกาสได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี ซึ่งอาจปรับตัวตามทิศทางหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ อีกทั้ง หุ้นจีนโดยเฉพาะดัชนี CSI ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของปีส่งผลให้ภาพรวมปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างเป็นบวก จากปัจจัยดังกล่าวคาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตาม ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้อยู่ที่บริเวณ 1,270 จุด โดยในกรณีที่ดีสุดมองว่ามีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,280 จุด

สำหรับประเด็น คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้น ฝ่ายนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักถึง 90% ว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ อิงจากการวิเคราะห์ของ Krungsri Research อีกทั้งผลสำรวจนักวิเคราะห์ 14 ราย ซึ่งพบว่า 9 รายคาดว่าจะลดเช่นกัน ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ เงินเฟ้อทั่วไปของไทยล่าสุดอยู่ที่ -0.7% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวกต่อเนื่องถึง 23 เดือน

นอกจากนี้ แม้ตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวกต่อข่าวอัตราภาษี 19% จากสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด แต่หากเทียบกับปีก่อนซึ่งผู้ส่งออกไทยไม่ต้องเสียภาษี การกลับมาเสียภาษีในช่วงครึ่งปีหลังอาจสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจภาคส่งออก

ทั้งนี้ หากมีการปรับลดดอกเบี้ย ทุกๆ การลดลง 0.25% จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นผ่านกลไก Earnings Equity Premium ราว 55 จุด หมายความว่าหากดอกเบี้ยปรับลด ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากดอกเบี้ยคงที่ ตลาดอาจไม่ได้ตอบรับในเชิงบวกเต็มที่ และมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับฐานหลังจากปรับขึ้นมากว่า 220 จุดในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนประเด็น พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระ 2 และวาระ 3 ซึ่งเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากหากร่างงบประมาณสามารถผ่านความเห็นชอบได้ จะช่วยให้ความกังวลเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณปีหน้าลดลง หากเดินหน้าของกระบวนการพิจารณางบ อาจเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามการพิจรณาคดีทางการเมืองอย่างใกล้ชิด

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำกลุ่ม China Play ตามข่าวสหรัฐและจีนที่ขยายระยะเวลาผ่อนผันภาษี 90 วัน โดยแนะนำหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เป็นตัวเลือกหลัก นอกจากนี้แนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลงหาก กนง. มีมติปรับลดดอกเบี้ยในรอบนี้ ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า และ กลุ่มไฟแนนซ์ คือ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC

สำหรับประเด็นหุ้นไฟแนนซ์ อย่าง บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR แจ้งเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่โดยธนาคารกรุงศรีเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มสัดส่วนเป็น 46.51% มองว่าสิ่งนี้น่าจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ขออนุญาตแสดงความเห็นประมาณนี้

Back to top button