JMART ดีดแรง 6% ชู 6 ธุรกิจเรือธง ดันรายได้-กำไรครึ่งปีหลังปีแกร่ง
JMART เด้ง 6% กางกลยุทธ์ครึ่งปีหลังเร่งสร้างสเกลธุรกิจ Commerce Tech-FinTech พร้อมต่อยอด Ecosystem ทุกสายธุรกิจ ตั้งเป้าดันรายได้โตต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ณ เวลา 10:39 น. อยู่ที่ระดับ 8.60 บาท หรือ 5.52% สูงสุดที่ระดับ 8.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 98.62 ล้านบาท
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์ครึ่งปีหลัง มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจ Commerce Tech และ FinTech โดยใช้การสร้างสเกลและเทคโนโลยีเป็นหัวใจหลัก เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว พร้อมต่อยอดพลัง Synergy Ecosystem เชื่อมโยงทุกธุรกิจในเครือ สร้างรายได้ต่อเนื่อง และวางรากฐานโมเดลรายได้ใหม่ หนุนกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน หลังครึ่งปีแรกทำรายได้รวม 7,548 ล้านบาท กำไรสุทธิ 251 ล้านบาท
ด้านสุกี้ตี๋น้อยที่ JMART ถือหุ้น 30% ยังคงเป็นแหล่งรายได้สำคัญ พร้อมกลยุทธ์ใหม่ทั้งการเปิดเมนู การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในอนาคต ด้าน บ.เจมาร์ท โมบาย เตรียมอัดกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง จากการเปิดตัวมือถือรุ่นเรือธงและการต่อยอดสินเชื่อมือถือ “Lock Phone” โดยยังมีแผนบุกตลาด iPhone เพิ่มเติม คาดเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 3 ปีนี้
ขณะที่ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เดินหน้าซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันเพิ่มอีก 20,000-25,000 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง หลังครึ่งปีแรกซื้อแล้ว 20,000 ล้านบาท ดันพอร์ตหนี้สิ้นมิถุนายนแตะ 568,428 ล้านบาท มั่นใจผลการจัดเก็บและบริหารต้นทุนที่ดี หนุนกำไรฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดไตรมาส 2/2568 ทยอยจ่ายคืนหุ้นกู้ตามกำหนด เร่งทรานส์ฟอร์มด้วย Digital AMC นำ AI เสริมประสิทธิภาพการทำงาน
ส่วน บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ขยายธุรกิจศูนย์การค้าชุมชน และ IT Junction โดยมุ่งยกระดับ Occupancy rate สิ้นปีแตะ 95% เสริมด้วยการรุกธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในสภาวะเศรษฐกิจท้าทาย ขณะที่ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ตั้งเป้าครึ่งปีหลังรายได้โต 20% จากธุรกิจ Lock Phone เครื่องใช้ไฟฟ้า และตู้เติมน้ำมันที่ขยายครอบคลุมทั่วประเทศ
ด้าน บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เร่งปั้นพอร์ตสินเชื่อใหม่ภายใต้โครงการ Lock Phone ทั้งปี 8,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกปล่อยแล้ว 3,728 ล้านบาท มีลูกค้าสะสมกว่า 700,000 สัญญา พร้อมจับมือแบรนด์มือถือชั้นนำ 6 ราย และเพิ่ม Nothing Phone เสริมพอร์ต รวมถึงทดสอบ Sandbox สินเชื่อ iPhone โดยสิ้น มิ.ย. 2568 มีพอร์ตสินเชื่อรวม 13,836 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อ Lock Phone แตะ 50% ภายในสิ้นปี หนุนคุณภาพสินเชื่อและลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อเนื่อง