
ศาลอาญายกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112–พ.ร.บ.คอม ปมสัมภาษณ์สื่อนอก ปี 58
“ทักษิณ” อดีตนายกฯ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “ยกฟ้อง” ระหว่างออกจากศาลอาญา รัชดาฯ หลังฟังคำพิพากษาคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ส.ค.68) ศาลอาญา รัชดาภิเษก มีคำพิพากษาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย
คดีหมายเลขดำที่ อ.1860/2567 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ในฐานความผิดตาม มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี โดยนายทักษิณให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณา
มีรายงานว่า ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์ความผิด และข้อความที่ถูกกล่าวหาไม่เข้าข่ายความผิดตามที่โจทก์ยื่นฟ้อง จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง
ต่อมา เวลา 10:40 น. นายทักษิณได้เดินทางออกจากศาลอาญา รัชดาภิเษก พร้อมกล่าวสั้น ๆ กับสื่อมวลชนว่า “ยกฟ้อง”
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังคำพิพากษาว่า ศาลมีคำสั่งยกฟ้องโดยอาศัยเหตุผลหลายประการ โดยเห็นว่าการพิสูจน์ของฝ่ายโจทก์ไม่สมกับภาระการพิสูจน์ตามที่ยื่นฟ้อง
นายวิญญัติ ระบุว่า ศาลได้พิจารณาจากการสัมภาษณ์ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้หลักการชั่งน้ำหนักวัตถุพยาน ศาลเชื่อว่ามีการให้สัมภาษณ์จริง แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเป็นพยานหลักฐานมีเพียงบางส่วน ขณะที่เนื้อหาทั้งหมดของการสัมภาษณ์มีมากกว่านั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ ก็ไม่ใช่หน้าที่ของจำเลยที่จะต้องพิสูจน์ว่าเป็นการตัดต่อหรือไม่ เพราะภาระการพิสูจน์อยู่ที่ฝ่ายโจทก์ แต่เมื่อโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ศาลจึงรับฟังด้วยความระมัดระวัง และเห็นว่าถ้อยคำในคลิปไม่อาจตีความได้อย่างชัดเจนว่าเป็นบุคคลตามมาตรา 112
“ศาลพิจารณาด้วยหลักไวยากรณ์ที่ต้องมีประธาน กริยา และกรรม ซึ่งในกรณีนี้ประธานไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นบุคคลตามมาตรา 112 แม้จะมีสรรพนามว่า “เขา” แต่พยานที่อ้างนำมาตีความก็ไม่น่าเชื่อถือ เพราะหลายปากมีอคติ แสดงออกทางการเมืองในอดีต หรือให้การไม่เป็นกลาง บางถ้อยคำก็เป็นเพียงการสันนิษฐานว่านายทักษิณน่าจะพูดเช่นนั้น เพื่อให้เชื่อมโยงเข้ากับบุคคลตามมาตรา 112” นายวิญญัติ กล่าว
นายวิญญัติ ยังระบุว่า ศาลได้อ้างพจนานุกรมต่างประเทศมาประกอบการพิจารณา ซึ่งคำแปลความหมายตามที่ปรากฏในคำฟ้อง ไม่ได้หมายถึงพระมหากษัตริย์ จึงทำให้องค์ประกอบความผิดตามมาตรา 112 ไม่ครบถ้วน
อีกทั้งศาลยังให้ความสำคัญกับพยานผู้เชี่ยวชาญของฝ่ายจำเลยที่ได้อธิบายและแปลความอย่างชัดเจน ขณะที่ตั้งแต่ต้น นายทักษิณก็ให้การปฏิเสธอย่างหนักแน่นอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นภาระของฝ่ายโจทก์ที่จะต้องพิสูจน์ ทั้งในส่วนของคลิปวิดีโอ การแปลความ และการสอบสวนที่ผ่านมา ว่าน่าเชื่อถือเพียงใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตอนนี้ข้อหานี้ยกฟ้องแล้ว ถือว่านายทักษิณเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทีมทนายความจะยื่นคำร้องเพิกถอนในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
ด้านนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า หลังจากนี้พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนจะดำเนินการขอคัดถ่ายคำพิพากษาและคำเบิกความทั้งหมด เพื่อนำมาประกอบการจัดทำความเห็นเสนอไปยังสำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง
จากนั้นจะส่งต่อความเห็นไปยังรองอัยการสูงสุดผู้ดูแลเรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะนำความเห็นเสนอไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อหรือไม่ภายใน 30 วัน หากครบกำหนดแล้วยังพิจารณาไม่เสร็จสิ้น อาจขอขยายระยะเวลาได้ ครั้งละ 30 วัน
กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยสรุปผลคำพิพากษาคดีนี้
อ้างอิง : สื่อศาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :