
SET พักฐานและ Fund Flow ชะลอ รอดูเสถียรภาพการเมืองไทย
InnovestX มองว่าโครงการอุดหนุนเงินกู้เพื่อการบริโภคของจีนอาจกระตุ้นให้เกิดเงินกู้ใหม่หลายล้านล้านหยวน โดยหากเม็ดเงินอุดหนุนถึง 5-8 หมื่นล้านหยวน จะสามารถกระตุ้นเงินกู้ใหม่ 5-8 ล้านล้านหยวน
InnovestX มองว่าโครงการอุดหนุนเงินกู้เพื่อการบริโภคของจีนอาจกระตุ้นให้เกิดเงินกู้ใหม่หลายล้านล้านหยวน โดยหากเม็ดเงินอุดหนุนถึง 5-8 หมื่นล้านหยวน จะสามารถกระตุ้นเงินกู้ใหม่ 5-8 ล้านล้านหยวน ซึ่งอาจช่วยแก้ไขปัญหากับดักสภาพคล่องของจีนได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากที่ผ่านมา การขยายตัวของสินเชื่อจีนชะลอต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจีนจะทำนโยบายการเงินผ่อนคลายก็ตาม โดยล่าสุดธนาคารพาณิชย์จีนมียอดสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนเดือน ก.ค. หดตัวสุทธิ 5 หมื่นล้านหยวน หดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ ก.ค. 2005
อย่างไรก็ตาม InnovestX มองว่าด้วยมาตรการการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นความต้องการในประเทศจะเป็นผลบวกต่อ GDP จีนกว่า 100-150 bps ประกอบกับการที่สหรัฐฯ เลื่อนเส้นตายการเก็บภาษีการค้าออกไปอีก 90 วัน และทำให้ GDP จีนน่าจะขยายตัวในช่วงประมาณ 4.4-5.0% ตามที่เราคาดได้
InnovestX กังวลความเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐฯ มากขึ้นจาก (1) องค์ประกอบเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะค่าจ้าง ที่เร่งตัวขึ้นจาก 0.44% (p.p.) สู่ 0.53% ซึ่งสอดคล้องกับค่าแรงเฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 3.9% ขณะที่ค่าแรงเฉลี่ยต่อสัปดาห์ขึ้น 4.2% ต่อปี ซึ่งเร่งตัวขึ้นในระยะหลังสอดคล้องกับแรงงานผิวสีและลาตินที่ลดลงจากมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ
(2) เงินเฟ้อภาคบริการที่พุ่งสูงโดยเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าสุขภาพ และบันเทิง และทำให้ Core CPI เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ (3) เงินเฟ้อที่สูงขึ้นนี้แม้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในปัจจุบันยังต่ำอยู่ที่ 3.24 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ต่ำกว่าปีก่อนเกือบ 10% ทำให้ InnovestX เชื่อว่า Fed ไม่น่าจะลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตาม InnovestX จะติดตามข้อมูลตลาดแรงงานและเงินเฟ้อใกล้ชิด
สำหรับตลาดหุ้นไทย InnovestX มองช่วงสั้น SET จะยังอยู่ในช่วงพักฐานและ Fund Flow จะมีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากอยู่ระหว่างติดตามความชัดเจนทางการเมืองในประเทศ โดยวันที่ 29 ส.ค. (เวลา 15.00 น.) ศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งบังลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงหลุดของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมองความเป็นไปได้ใน 3 กรณี คือ 1) หากศาลวินิจฉัยให้ “พ้นจากตำแหน่ง” มองอาจกดดันให้ SET ปรับลงแรงช่วงสั้น จากกังวลเกิดสุญญากาศทางการเมือง โดยจะต้องติดตามต่อเกี่ยวกับการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่, การเปลี่ยนขั้วรัฐบาล 2) หากศาลวินิจฉัย “ไม่มีความผิด” มองตลาดจะฟื้นตัวช่วงสั้นจากคลายกังวลเสกียรภาพการเมืองระดับนึง แต่ดัชนีจะปรับขึ้นได้จำกัด จากยังมีคดีการเมืองอื่นที่ต้องติดตามในระยะต่อไป และ 3) หากเกิดการยุบสภา มองมีโอกาสหนุนให้ตลาดปรับขึ้นเพราะมีความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลัก และ 2 ธีมเทรดดิ้ง ซึ่งมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
- หุ้น Earning Play ซึ่งคาดครึ่งหลังปี 68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC, BCPG, GULF, SCC, TIDLOR
- หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรครึ่งแรกปี 68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT, SIRI, HMPRO, TTB
- Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Rating A-AAA) แนะนำ BDMS, CPALL, MTC, PTT, WHA และ 2) หุ้น Global Play เพื่อหลบช่วงที่เสถียรภาพทางการเมืองไทยยังมีความไม่ชัดเจน แนะนำ SCC, HANA
นางสาวณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล
ผู้อำนวยการอาวุโส Equity Strategy Team บล. InnovestX
บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX
รุปรายงานประชุม Fed กรกฎาคม 2025
หัวข้อ | เงินเฟ้อ (Inflation) | ตลาดแรงงาน (Labor Market) |
ระดับความเสี่ยง | 🔴 สูง (ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นความเสี่ยงหลัก) | 🟡 ปานกลาง (กังวลน้อยกว่า) |
สถานการณ์ปัจจุบัน | เงินเฟ้อเหนือเป้า 2% นานแล้ว
เงินเฟ้อผู้ผลิตพุ่งสูงสุดรอบ 3 ปี |
อัตราการว่างงาน 4.2%
การจ้างงานชะลอที่สุดนับตั้งแต่ pandemic |
สาเหตุหลัก | ภาษีนำเข้า (Tariffs) ที่อาจส่งผลระยะยาว | การปรับลงข้อมูลการจ้างงานย้อนหลัง |
ความกังวลระยะยาว | การคาดการณ์เงินเฟ้อไม่เสถียร ผลกระทบจากภาษีอาจยืดเยื้อ | การจ้างงานอาจอ่อนแอต่อเนื่อง |
จำนวนกรรมการที่สนับสนุน | ส่วนใหญ่ (Majority) | หลายคน (Several) เห็นความเสี่ยงสมดุล
2 คน กังวลมากกว่า |
การตอบสนองนโยบาย | ให้คงดอกเบี้ย 4.25%-4.5% | พิจารณาข้อมูลใหม่ก่อนประชุมกันยายน |
Source: FOMC, Bloomberg