BGRIM บวกต่อ 4% โบรกอัพคำแนะ “ซื้อ” เป้า 14 บ. รับอุตสาหฯฟื้น-ค่าไฟหนุน-เวียดนามผ่อนคลาย

BGRIM บวก 4% หลังบล.เคจีไอปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” พร้อมอัปเป้าหมายใหม่ปี 69 ที่ 14 บาท จากแนวโน้มเชิงบวก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ค่าไฟฟ้าปรับลดช้ากว่าคาด อุปสงค์ภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัว และความเสี่ยงเวียดนามลดลง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ส.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ณ เวลา 11:06น. อยู่ที่ระดับ 12.60 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 4.13% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 12.80 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 12.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220.67 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองแนวโน้ม BGRIM เชิงบวกจากสามปัจจัยหลัก ดังนี้ 1.) การปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศไทยช้ากว่าคาด ด้วยข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ ปัญหาทางการเมืองค้างคา และแรงจูงใจอ่อนแอลง ทำให้นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราค่าไฟฟ้าขึ้นเป็น 4.02 บาท/3.85บาท/3.85บาท/kWh (จากเดิม 3.94บาท/3.70บาท/3.70บาทต่อหน่วย) สอดคล้องกับ GPSC

2.) อุปสงค์ไฟฟ้ากลุ่มผู้ใช้งานอุตสาหกรรมดีขึ้น ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ไตรมาสที่ 2/68 ล่าสุดของ หลายบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มไฟฟ้าชี้ว่าความกังวลก่อนหน้านี้มีมากเกินไป จากอัตราการใช้กำลัง การผลิตของลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ ซึ่งรวมถึงกลุ่มยานยนต์ ยางรถยนต์ และปิโตรเคมี เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น (Figure 1) ส่วนหนึ่งหนุนจากการปรับตัวของอุตสาหกรรมในวงกว้าง และการปรับลดภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อไทยน้อยลงกว่าเดิม

3.) ความกังวลเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าในเวียดนามลดลง ผู้ประกอบการด้านพลังงานส่วนใหญ่ใน เวียดนามคาดว่าการปรับอัตราค่าไฟฟ้าในเวียดนามจะได้ข้อสรุปสุดท้ายภายในสิ้นปี 2568 นี้ โดยอัตราค่าไฟฟ้าน่าจะอยู่ที่ 49.35 เซนต์สหรัฐ/kWh แทนที่จะเป็น 7.09 เซนต์สหรัฐ/kWh ซึ่งสะท้อนถึงความ ระมัดระวังของรัฐบาลเวียดนามที่จะหลีกเลี่ยงขอพิพาทกับนักลงทุนและปกป้องความเชื่อมั่นด้วย

นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มกำไรหลักปี 2568-2570 ขึ้น 12-22% (Figure 2) เพื่อสะท้อนถึงอัตราค่าไฟฟ้าสูงขึ้นที่ 4.02 บาท/3.85บาท/3.85บาท/kWh (จากเดิม 3.94บาท/3.70บาท/3.70บาท/kWh) และอุปสงค์กลุ่มผู้ใช้งาน อุตสาหกรรม (IU) , แข็งแกร่งขึ้น การที่กำไรหลักครึ่งแรกปี 68 สูงที่ 1.2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน) คิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปี 2568

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรครึ่งหลังปี 68 จะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบชั่วโมงก่อนหน้า โดยกำไรหลักไตรมาสที่ 3/68 อาจลดสูงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้จากบริการลดลงและค่าซ่อมบำรุงสูงขึ้น แม้ว่า margin ของ SPP จะดีขึ้นก็ตาม ยิ่งกว่านั้น กำไรหลักไตรมาสที่ 4/68 อาจเป็นจุดต่ำสุดของปีท่ามกลางปัจจัยตามฤดูกาล การปิดซ่อมบำรุงตามกำหนดและ อุปสงค์กลุ่มผูใช้งานอุตสาหกรรมลดลง

โดย บล.เคจีไอ ปรับเพิ่มคำแนะนำ BGRIM ขึ้นเป็น “ซื้อ” จากถือ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2569 DCF ที่ 14.00 บาท (WACC ที่ 6.1%, จาก 6.6%) (เดิม 10.10บาท) ตามการปรับเพิ่มกำไรใหม่ของนักวิเคราะห์และส่วนลด ของสินทรัพย์ในเวียดนามที่ลดลงกลับเป็นปกติจากการรับรู้ความเสี่ยงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่การ แทรกแซงอัตราค่าไฟฟ้าน่าจะน้อยลงและอุปสงค์กลุ่มผู้ใช้งานอุตสาหกรรมค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ คาดว่าราคาหุ้น BGRIM จะ outperform ขึ้นอีก ด้วยแรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดลง ชัดเจนและค่าเงินบาทแข็งแกร่งเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ

Back to top button