
SA รุกครึ่งปีหลัง เสิร์ฟ Monsane Exclusive Villa เฟส 2 เจาะตลาดไฮเอนด์
SA ประกาศเดินเกมรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบครึ่งหลังปี 2568 ผลักดันโครงการ “มนต์เสน่ห์” สู่แบรนด์บ้านแนวราบระดับลักชูรี่ของคนไทย โดยไม่เพียงเป็นที่อยู่อาศัย แต่เป็น “ประสบการณ์การใช้ชีวิต” ที่ผสานความหรูหรา ความยั่งยืน และคุณค่าเหนือกาลเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจาก Knight Frank Thailand ระบุว่า ภาพรวมของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดบ้านหรูยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเพิ่มจาก 12,349 ยูนิต (ปี 62) เป็น 37,775 ยูนิต (เม.ย. 68) สะท้อนความต้องการสูง แม้เศรษฐกิจชะลอตัวและมีความท้าทาย ซึ่งกลุ่มบ้านระดับราคา 10–30 ล้านบาท ครองตลาด คิดเป็น 78% ของยูนิตใหม่ และพื้นที่ราชพฤกษ์–ปิ่นเกล้า ถือเป็นทำเลศักยภาพฝั่งตะวันตกที่สต็อกใหม่ ยังมีน้อย จึงเป็นโอกาสลงทุนสูง อีกทั้ง ลูกค้า High-net-worth มองหาทั้งคุณภาพชีวิต และผลตอบแทนระยะยาว
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA กล่าวว่า ตลาดครึ่งปีหลังยังเผชิญแรงกดดันจากทั้งปัจจัยต่างประเทศ เช่น ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะ นโยบายภาษีอสังหาฯ ที่เริ่มส่งผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ทั้งภาษีบ้านหลังที่สองและภาษีรายได้จากสินทรัพย์
“แม้กำลังซื้อยังมีศักยภาพ แต่ลูกค้าระมัดระวังมากขึ้น พวกเขามองไปไกลกว่าแค่ความสวยงามหรือทำเล แต่ต้องการโครงการที่สร้างมูลค่าในระยะยาว มีความยั่งยืน และคุ้มค่าทางภาษี ซึ่งบริษัทฯ เข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างแท้จริง และสามารถออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์ในมิติเศรษฐกิจใหม่ เช่น การออกแบบบ้านให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ การใช้วัสดุประหยัดพลังงาน หรือการวางแผนภาษีที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าจะสามารถสร้างความได้เปรียบ โดยในครึ่งปีหลังนี้จะเป็นบทพิสูจน์ของ Developer ที่มีวินัย และเข้าใจ New Demand ในเชิงลึกมากกว่าการแข่งขันด้วยราคาเพียงอย่างเดียว” นายขจรศิษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อสอดรับกลยุทธ์กำไรของชีวิต SA เปิดตัวโครงการ Monsane Exclusive Villa ราชพฤกษ์–ปิ่นเกล้า เฟส 2 บ้านพูลวิลล่าระดับซูเปอร์ลักชูรี่ สไตล์ยูโรเปียนคลาสสิก เน้นความเป็นส่วนตัว พื้นที่กว้าง บนที่ดินใหญ่เริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 434–628 ตร.ม. ราคา 29–50 ล้านบาท มาพร้อมโปรโมชั่น ฟรีค่าโอน + ส่วนลดสูงสุด 6 ล้านบาท เจาะตลาดกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง (High Income Independence) ทั้งเพื่ออยู่อาศัยจริงและการลงทุนระยะยาว
สำหรับจุดเด่นโครงการ ประกอบด้วย ดีไซน์ Timeless Aesthetic & Universal หรูหราสไตล์ยุโรป , Air of Life ระบบฟอกอากาศภายในบ้าน ที่ช่วยควบคุมคุณภาพอากาศให้สะอาด สดชื่น ปลอดฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ เหมาะอย่างยิ่งกับกลุ่มครอบครัวที่ใส่ใจสุขภาพ มาพร้อมกับ Solar Solution ที่ช่วยลดภาระค่าไฟในระยะยาว รองรับการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน
สอดคล้องกับแนวคิด Green Living ในส่วนประตูและหน้าต่างจาก TOSTEM (LIXIL Japan) รุ่น ATIS ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันเสียงจากภายนอก และดีไซน์ที่ทันสมัย มอบทั้งความปลอดภัยและความสวยงามในมาตรฐานระดับโลก และยังมี EV Charger รองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใช้ EV และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มไฮเอนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมคุณค่าเพื่ออนาคตจาก Investment-Grade Asset มีดีมานด์เช่าสูง โดยเฉพาะกลุ่มต่างชาติ อยู่ในทำเลศักยภาพ ราชพฤกษ์–ปิ่นเกล้า ทำเลฝั่งตะวันตกที่เติบโตแรง เชื่อมทั้งเมืองเก่า–เมืองใหม่
“เราสร้างบ้านที่ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าในทุกมิติ บนทำเลศักยภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่เชื่อมโยงทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่ เรานำเทคโนโลยี Smart Home และระบบบริหารจัดการพลังงานเข้ามาใช้ รวมถึงฟังก์ชัน Wellness Space เพื่อรองรับเทรนด์สุขภาพที่มาแรง ลูกค้าจะได้ทั้งความสงบ ความเป็นส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือระดับ” นายขจรศิษฐ์ กล่าว
พร้อมกันนี้บริษัทฯ โครงการดังกล่าวยังได้รับรางวัล EDGE Champion มาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลกเป็นมาตรฐานอาคารเขียวและการวัดผลการก่อสร้างอย่างยั่งยืน การใช้พลังงาน (Energy Efficiency) การใช้น้ำ (Water Efficiency) และการใช้วัสดุก่อสร้างอาคาร (Material Efficiency)