ทำไมหุ้น KTB พุ่ง

วานนี้ ราคาหุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ทำนิวไฮในรอบมากกว่า 10 ปี

ระหว่างวันราคาหุ้นขึ้นมาสูงสุด 25.25 บาทต่อหุ้น

ทำให้หุ้นกรุงไทย หากนับจากวันที่ 31 ก.ค.68 มาจนถึงวานนี้ หรือเกือบ 1 เดือน ราคาพุ่งขึ้นมากว่า 14.77%

ก่อนหน้านี้ กรุงไทย รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 1.11 หมื่นล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 1.174 ล้านบาท

ส่วนช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) มีกำไรสุทธิ 2.28 หมื่นล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากครึ่งปีแรกของปีก่อนเช่นกัน

มาดูตัวเลขสำคัญทางการเงินของกุงไทย ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 ของกรุงไทยกันอีกครั้ง

• อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ที่ไม่เกิดให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) อยู่ที่ 194% ซึ่งมากเป็นอันดับสองรองจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อยู่ที่ 284%
• หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 2.94% ลดลงจากสิ้นปี 67 ซึ่งอยู่ที่ 2.99%
• อัตราส่วนความเสี่ยงต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Capital to Risk Assets Ratio : CAR) อยู่ที่ 21.3% (เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 19.28%
• Cost to Income ratio อยู่ที่ 42.3%
• อันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch Ratings, เครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารที่ BBB+, อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha) และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) เป็น ‘bbb’

เมื่อดูจากตัวเลขทั้งหมดดังกล่าวที่ว่านี้

อาจจะพอบ่งบอกได้ว่ากรุงไทย อยู่ในสถานะที่ “แข็งแกร่ง” มาก

และเมื่อมองไปยังแนวโน้มข้างหน้า น่าจะรับมือกับเศรษฐกิจผันผวนได้ในระดับที่ดีจากการ “ยกการ์ด” หรือเงินกองทุนในระดับสูงมาก

นี่ยังไม่รวมความเสี่ยงจากพอร์ตสินเชื่ออยู่ระดับต่ำ จากสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นของภาครัฐ

ส่วนสินเชื่อรายย่อย จะเป็นกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานที่รับเงินเดือนเข้าธนาคารกรุงไทย

ทั้งหมดนี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสียต่ำมาก

แต่ตัวเลขนี้ยังไม่น่าจะเป็นปัจจัยเพียงพอให้ราคาหุ้นกรุงไทย พุ่งขึ้นมาต่อเนื่อง และทำนิวไฮในรอบมากกว่า 10 ปี

ปัจจัยหลักน่าจะมาจาก “การบินไทย” (THAI) ที่กรุงไทยมีการ “แปลงหนี้เป็นทุน”

กรุงไทย หลังแปลงหนี้ของการบินไทยเป็นทุน ส่งผลให้กรุงไทย เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 5.728% หรือเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,327,322,126  หุ้น

และคิดเป็นราคาหุ้นละ 2.5452 บาท

การแปลงหนี้เป็นทุนครั้งนี้มีเงื่อนไขว่า กรุงไทยจะขายหุ้นออกได้ 25% หลังการบินไทยเข้าเทรดผ่านไปแล้วหลัง 6 เดือน

และเมื่อผ่านไปแล้ว 1 ปี กรุงไทยจะสามารถขายหุ้นออกได้ทั้งหมด

ล่าสุดราคาหุ้นการบินไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 12.40-12.60 บาท

หรือหากคำนวณแบบง่าย ๆ กรุงไทยจะมีกำไรอยู่หุ้นละประมาณ 10 บาท เมื่อนำมาคูณกับจำนวนหุ้น กรุงไทยน่าจะมีกำไร 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท (ยังไม่ได้หักต้นทุนที่อาจจะมี)

นักวิเคราะห์ประเมินกันว่า กรุงไทยน่าจะต้องขายหุ้นการบินไทยออกมาค่อนข้างแน่นอน เนื่องจากว่าไม่ใช่ธุรกิจหลัก

จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถือหุ้นต่อไปในระยะยาว

ส่วนเงินที่ได้จากการขายหุ้น เกิดการตั้งข้อสมมติฐานไว้ว่า อาจจะนำมาจ่ายเงินปันผล (เพิ่ม) หรืออาจจะบันทึกในงบดุลในรูปแบบอื่น ๆ

แต่ไม่ว่าจะบันทึกด้วยวิธีการใด ย่อมส่งผลด้านบวกต่องบการเงินกรุงไทยในอนาคต

ล่าสุด จากการรวบรวมบทวิเคราะห์จาก 8 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่วิเคราะห์หุ้นกรุงไทยไว้ โดยให้ราคาเป้าหมายสูงสุด30.00 บาท และต่ำสุด 25.50 บาท

และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 27.00 บาท

มาลุ้นว่า ราคาหุ้นขึ้นมารอบนี้ของกรุงไทย จะยืนเหนือ 25.00 บาท ได้หรือไม่