
ครม. นัดพิเศษ เห็นชอบมอบ “ภูมิธรรม” ปฏิบัติหน้าที่แทนนายก – ตั้ง “หมอมิ้ง” เลขาฯ
มติครม. นัดพิเศษให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด กำหนดแนวทาง “ครม. รักษาการ” ดำเนินการเฉพาะเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ไม่ผูกพันรัฐบาลชุดใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (30 ส.ค.68) มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ภายหลังการประชุม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มติที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาและเห็นชอบในเรื่องสำคัญ ดังนี้
ครม. มีมติเห็นชอบมอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ส่งผลให้ ครม. ทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาการต่อไป ตามมาตรา 167 และมาตรา 168 ของรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกัน ครม. มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการทำงานของ ครม. รักษาการ หลังสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี โดยย้ำว่า ครม. ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แต่ไม่ควรพิจารณาเรื่องนโยบายที่มีผลผูกพันรัฐบาลชุดใหม่ เว้นแต่เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนหรือเรื่องต่อเนื่อง ทั้งนี้ เรื่องร่างกฎหมายที่ ครม. อนุมัติหลักการก่อนวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ให้ดำเนินการตามความเหมาะสม หากเป็นร่างกฎหมายใหม่ควรรอรัฐบาลชุดต่อไป
ด้านข้าราชการการเมืองที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี เช่น กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้แทนการค้าไทย หรือคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย หากจะให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ จำเป็นต้องแต่งตั้งใหม่ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
นายชูศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังหารือถึงกฎหมายที่ผ่าน ครม. ไปแล้วและอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีมติให้ชะลอไว้ก่อน หากเป็นนโยบายที่อาจผูกพันรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ ครม. ชุดใหม่เป็นผู้พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง
ส่วนประเด็นสถานการณ์ ไทย–กัมพูชา นายชูศักดิ์ ระบุว่า แม้คำสั่งแต่งตั้งต่าง ๆ ของนายกรัฐมนตรีจะสิ้นผลลง แต่จะมีการเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป