
ครม. ไฟเขียว 2.2 หมื่นลบ. เพิ่มวงเงิน “บัตรสวัสดิการ” 850 บ. พ.ย.–ธ.ค. ช่วย 13.4 ล้านคน
ครม. ไฟเขียวงบกลางเหลือจ่ายปี 68 วงเงิน 22,780 ล้านบาท เติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่ม 850 บาทต่อเดือน (พ.ย.-ธ.ค.) รวม 1,700 บาท ครอบคลุม 13.4 ล้านคน คาดหนุนกำลังซื้อปลายปี ดัน GDP 0.07-0.08% พร้อมย้ำ “คนละครึ่งพลัส” อีก 20 ล้านสิทธิ เตรียมเข้า ครม. สัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารรัฐสภาว่า วันนี้ (30 ก.ย.68) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันสิ้นปีงบประมาณ 2568 และในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.68) จะเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่ ทำให้มีหลายประกาศสิ้นสุดลง รัฐบาลจึงต้องจัดประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาและอนุมัติเรื่องสำคัญหลายด้าน รวมถึงประเด็นทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือประชาชน
ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้กระทรวงการคลังใช้งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 22,780 ล้านบาท เพื่อเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิ 13.4 ล้านคน โดยเติมเงิน 850 บาทต่อเดือน ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2568 จากเดิมที่ผู้ถือบัตรได้รับ 300 บาทต่อเดือน ทำให้ในสองเดือนดังกล่าวจะได้รับรวม 1,150 บาทต่อเดือน รวมสิทธิทั้งสิ้น 1,700 บาทต่อคน ส่วนในเดือนตุลาคมนี้ยังคงได้รับวงเงินตามปกติ 300 บาท

“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนที่ได้รับเงินเติมเข้าไป ไม่ใช่ต้องจ่ายคนละครึ่ง เนื่องจากเป็นผู้มีรายได้น้อย ดังนั้นเงินที่เติมเข้าไปใช้จ่ายได้ทันที ไม่ต้องควักจ่ายเอง นี่คือความต่างเล็กน้อย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ การเพิ่มวงเงินดังกล่าวจะทำให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น และเป็นการเพิ่มยอดขายกับร้านธงฟ้า และร้านอื่น ๆ ที่ผู้มีบัตรจะไปใช้จ่าย คาดว่าจะส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศโดยรวม อีกทั้งคาดว่า จะส่งผลให้ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.07-0.08% ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีบัตรฯ
นายสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วน “คนละครึ่งพลัส” สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี และประชาชนทั่วไป นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำหลักเกณฑ์และรายละเอียดเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในสัปดาห์หน้า ไม่เป็นการล่าช้า ยืนยันกำหนดการยังเป็นเช่นเดิม และมีเงินเพียงพอในการดำเนินโครงการครบถ้วน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเสนอให้รัฐบาลอนุมัติการกันเงินงบกลางเหลือจ่ายอีก 35,960 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้สาธารณะ โดยโอนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อรักษาวินัยการคลังและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงินของประเทศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“เอกนิติ” ยัน “คนละครึ่ง” เข้าครม. สัปดาห์หน้า – วันนี้เคาะงบปี 68
“ภราดร” แย้มข่าวดี! จ่อเปิด “คนละครึ่งพลัส” รับเงินสูงสุด 2,400 บ. ควบมาตรการพักหนี้แสนบาท