BEAUTY ‘เห่อ’ เกินพื้นฐาน.!

อยู่ดี ๆ หุ้นน้องสวย บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ก็พุ่งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยในรอบ 1 สัปดาห์ ราคาปรับขึ้นไปแล้ว 40% ในรอบ 1 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 100% และในรอบ 3 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 117% ส่วนวานนี้ (2 ก.ค. 2568) ระหว่างวันราคาพุ่งขึ้นไปแตะ 0.66 บาท ก่อนจะย่อลงมาปิดตลาดที่ 0.61 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 1.67%

สักพักก็มีรายงานการซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารอย่าง “ธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ” ซึ่งเป็นภรรยาของ “หมอสุวิน ไกรภูเบศ” ก็จุดพลุให้หุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อ… 

โดยช่วงเดือน ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา พบว่า “ธัญญาภรณ์” เก็บหุ้น BEAUTY ต่อเนื่อง เริ่มจากวันที่ 15 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 6.5 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.30 บาท มูลค่า 1.95 ล้านบาท ถัดมาวันที่ 18 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 8.5 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.30 บาท มูลค่า 2.55 ล้านบาท, วันที่ 19 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 4.1 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.30 บาท มูลค่า 1.23 ล้านบาท

วันที่ 20 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 46,300 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.30 บาท มูลค่า 13,890 บาท, วันที่ 21 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 7.78 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.40 บาท มูลค่า 3.11 ล้านบาท, วันที่ 22 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 5.04 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.38 บาท มูลค่า 1.91 ล้านบาท, วันที่ 25 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 4 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.37 บาท มูลค่า 1.48 ล้านบาท

วันที่ 27 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 34 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.48 บาท มูลค่า 16.32 ล้านบาท, วันที่ 28 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 19.52 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.48 บาท มูลค่า 9.37 ล้านบาท และวันที่ 29 ส.ค. 2568 ซื้อหุ้นจำนวน 11 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.50 บาท มูลค่า 5.50 ล้านบาท

เบ็ดเสร็จแล้ว “ธัญญาภรณ์” ใช้เงินแค่หลักสิบล้าน หรือราว 43.42 ล้านบาท ซึ่งไม่มีนัยอะไร…แต่ราคาหุ้นวิ่งเวอร์วังอลังการ แค่ช่วง 2 สัปดาห์เศษจากราคา 30 สตางค์ พุ่งไปทะลุ 60 สตางค์เศษ…

แต่อย่าลืมว่า เมื่อหลายปีก่อนสองสามีภรรยา “ธัญญาภรณ์” กับ “หมอสุวิน” เคยขายหุ้นล็อตใหญ่ออกมา 2 ล็อต จำนวนหลายร้อยล้านหุ้น ได้เงินเข้ากระเป๋าไปเกือบ 6,000 ล้านบาท ไม่นับรวมการขายหุ้นเล็ก ๆ อีกหลายรายการ ซึ่งถือเป็นฉากจบของหุ้น BEAUTY..!!

ยังจำได้มั้ย…จำได้หรือเปล่า..?? กับเหตุการณ์ครั้งนั้น…

โอเค…ถ้าไปย้อนดูตั้งแต่ต้นปี 2568 มานี้ “ธัญญาภรณ์” ซื้อหุ้น BEAUTY มาต่อเนื่อง…อันนี้ไม่เถียง 

แต่ถ้าดูจำนวนหุ้นที่ซื้อถือว่านิดเดียว เมื่อเทียบกับในอดีตที่สามีภรรยาคู่นี้เคยขายหุ้นออกมารวมกันหลายร้อยล้านหุ้น โดยจำนวนหุ้นที่ “ธัญญาภรณ์” กับ “หมอสุวิน” เคยถือรวมกัน 1,110 ล้านหุ้น ขณะที่ปัจจุบัน “ธัญญาภรณ์” ถือหุ้นอยู่ 534.52 ล้านหุ้น ส่วน “หมอสุวิน” ถือ 285.73 ล้านหุ้น

หันไปดูปัจจัยพื้นฐานของ BEAUTY ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร แผนธุรกิจไม่เห็นอะไรที่ชัดเจน มิหนำซ้ำผลประกอบการในรอบ 4 ปีมานี้ขาดทุนต่อเนื่อง โดยปี 2564 มีรายได้รวม 411.82 ล้านบาท ขาดทุน 80.77 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้รวม 365.46 ล้านบาท ขาดทุน 67.68 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้รวม 440.97 ล้านบาท ขาดทุน 45.67 ล้านบาท และปี 2567 มีรายได้รวม 435.80 ล้านบาท ขาดทุน 115.82 ล้านบาท

ขณะที่ครึ่งแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 136.81 ล้านบาท ขาดทุน 44.13 ล้านบาท…ทำให้พออนุมานได้ว่าปีนี้น่าจะขาดทุนอีกละมั้ง..!?

เห็นได้จากเวลาไปเดินตามห้างต่าง ๆ ร้าน BEAUTY BUFFET และร้าน BEAUTY COTTAGE ดูเงียบเหงา ลูกค้าบางตาจนน่าใจหาย…

เอ๊ะ..แล้วหุ้น BEAUTY ยังขึ้นได้ไงเนี่ย..??

สงสัยขึ้นเพราะแรงเห่อเสียมากกว่า..!?

ที่สำคัญหุ้นที่ “ธัญญาภรณ์” ซื้อมาจะขายหรือเปล่า..?? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ

ที่รู้งานนี้เป็นมันนี่เกมชัด ๆ ไม่ได้ขึ้นเพราะปัจจัยพื้นฐานหรอก แต่หากแยกปัจจัยพื้นฐานกับมันนี่เกมไม่ออก ก็มีแต่ดอยกับดอยเท่านั้น…

…อิ อิ อิ…