กกร. ผงะ! เจอต้นตอ“บาทแข็ง”ผิดปกติ โยงส่งออกทองไปกัมพูชาหมื่นล้าน หวั่นเอี่ยวธุรกิจสีเทา

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ส่งสัญญาณเตือนภัย “เงินบาทแข็งค่าเกินจำเป็น” จ่อหลุด 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หวั่นกระทบส่งออก-ท่องเที่ยวพังช่วงโค้งสุดท้ายของปี พร้อมเปิดปมพบความผิดปกติครั้งใหญ่ ตัวเลขส่งออกทองคำไปกัมพูชามูลค่าทะลุหลักหมื่นล้านบาท ตั้งข้อสังเกตอาจเป็นเส้นทางของธุรกิจนอกระบบ จ่อถก ธปท.-คลัง หาทางสกัดด่วน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ก.ย.68) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 31.70 และ 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมีโอกาสปรับแข็งค่าลงไปแตะระดับ 31.50 บาท ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่า เงินบาทได้เข้าสู่ภาวะแข็งค่าเกินความจำเป็น

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า การแข็งค่าของเงินบาทในระดับปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนภาวะที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมยังซบเซา กำลังซื้อภายในประเทศไม่ฟื้นตัว ซึ่งตามปกติในสถานการณ์เช่นนี้ ค่าเงินบาทควรจะอ่อนค่า อย่างไรก็ตาม สาเหตุสำคัญมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้สกุลเงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นตาม โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่า 7% จัดเป็นอันดับสองของภูมิภาครองจากไต้หวัน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่งออกต้องเผชิญแรงกดดันสองด้าน คือ นอกจากมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่สูงถึง 19% แล้ว ยังต้องแบกรับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย

นายเกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยก็มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากไทยกำลังเร่งฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง แต่หากค่าเงินบาทแข็งค่า ย่อมทำให้นักท่องเที่ยวลังเลที่จะเดินทางมาไทย และอาจเบนไปท่องเที่ยวประเทศอื่นที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า อาทิ เวียดนาม และญี่ปุ่น

นายเกรียงไกร เปิดเผยว่า กกร. พบความผิดปกติบางประการ โดยเฉพาะการส่งออกทองคำ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินจริง ขณะนี้ กกร. อยู่ระหว่างการลงรายละเอียดเพิ่มเติม และเตรียมหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า การส่งออกไปยังกัมพูชาในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับมีสัดส่วนสูงผิดปกติ โดยเมื่อตรวจในเชิงลึกกลับพบว่าเป็นการส่งออกทองคำเป็นหลัก กกร. จึงตั้งข้อสังเกตว่า กัมพูชาเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่ทำไมไทยจึงมีการส่งออกทองคำไปในปริมาณมากกว่าที่ควรจะเป็น

กกร. แสดงความกังวลว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในธุรกิจนอกระบบหรือธุรกิจใต้ดิน เนื่องจากกัมพูชามีปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และ กกร. ยังไม่ยืนยันข้อสรุป 100% โดยย้ำว่าการส่งออกทองคำไปยังกัมพูชาอาจมีทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งต้องรอผลหารือกับหน่วยงานของรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกทองคำไปยังกัมพูชาขณะนี้อยู่ในระดับหลักหมื่นล้านบาท ส่วนสัดส่วนที่แท้จริงยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากโดยปกติแล้ว ตัวเลขดังกล่าวไม่เคยสูงผิดปกติถึงเพียงนี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

“เงินบาท” เปิดแข็งค่า 31.76 บ. หลังดอลลาร์อ่อน

Back to top button