ม.หอการค้าไทย หนุนเพิ่มวงเงิน “คนละครึ่ง” 5 หมื่นลบ. ช่วยดันจีดีพีไตรมาส 4 โตเกิน 3%

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ชี้ มาตรการ “คนละครึ่ง” เฟสแรก 2.5 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียน 7–10 หมื่นล้านบาท หนุนจีดีพีไตรมาส 4 โต 2–3% และหากขยายวงเงินเป็น 5 หมื่นล้านบาท จะช่วยผลักดันจีดีพีทะลุ 3% สร้างโมเมนตัมฟื้นเศรษฐกิจต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ก.ย.68) รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวถึงมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เตรียมนำกลับมาใช้อีกครั้งว่า ถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ โดยวงเงินเฟสแรก 25,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบราว 70,000–100,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทย ในไตรมาส 4 ขยายตัวได้ 2–3%

ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ประเมินว่า หากรัฐบาลขยายวงเงินโครงการเป็น 50,000 ล้านบาท จะทำให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 100,000–150,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปีนี้ขยายตัวเกิน 3% ได้ และหากการท่องเที่ยวกลับมาแข็งแรง ประกอบกับการส่งออกไม่ทรุดตัว จะเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการฟื้นตัว

รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเศรษฐกิจไตรมาส 4 ขยายตัวได้เกิน 3% ต่อเนื่องกับบรรยากาศความเชื่อมั่นที่กลับมา จะส่งผลให้ไตรมาสแรกปี 2569 มีโอกาสขยายตัวในกรอบ 2.5–3% ได้ โดยมีแรงหนุนจากการใช้งบประมาณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งเพียงพอรองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

Back to top button