TWPC วิ่ง 3% ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม! ลุยตลาดตปท.-เปิดสินค้าใหม่ 4 รายการ เน้นคุมต้นทุน

TWPC บวกต่อ 3% แย้มทิศทางครึ่งปีหลังแจ่ม! หนุนผลงานปีนี้ประเทิร์นอะราวด์พลิกมีกำไร มุ่งบริหารต้นทุน เดินหน้าขยายตลาดเพิ่มฐานลูกค้า ออกสินค้าใหม่ 4 รายการ ดันมาร์จิ้นเพิ่ม


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (22 ก.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ระดับ 2.36 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.51% สูงสุดที่ระดับ 2.36 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.28 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.93 ล้านบาท

สืบเนื่องมาจาก นายศิว์วิศว์ อนันตกุล ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ TWPC เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี และในปี 2568 จะเป็นปีที่บริษัทสามารถเทิร์นอะราวด์ (Turnaround) พลิกกลับมามีกำไรได้ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 71.41 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 138.32 ล้านบาท

โดยกลยุทธ์หลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2568 คือ Cost saving (การประหยัดต้นทุน) ด้วยการบริหารต้นทุน ซึ่งจะทำให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจอาหาร ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2568  กลุ่มธุรกิจอาหารมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก (Double digits) และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังกลุ่มธุรกิจอาหารจะเติบโต Double digits เช่นเดียวกับช่วงครึ่งปีแรก

สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหารที่เติบโต  Double digits นั้น มาจาก 1.การขยายตลาดในประเทศเวียดนาม, 2.การออกสินค้าใหม่ ๆ ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะที่ต้นทุนลดลง ทำให้มาร์จิ้นปรับสูงขึ้น ซึ่งในช่วงครึ่งปึแรกของปีก่อน 2568 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ระดับ 22.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.6%

ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรไว้ในระดับเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยบริษัทยังคงจะเน้นการใช้กลยุทธ์เดิม และจะมีการออกสินค้าใหม่ ๆ ซึ่งล่าสุดได้ออก “วุ้นเส้นแบนผัดฉ่าทะเลกระทะร้อน” ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังจะมีสินค้าอื่นเพิ่มต่อเนื่อง

ด้านภาพรวมตลาดในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 85% เศรษฐกิจในประเทศไทยมีผลกระทบกับกำลังซื้อบ้าง ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 15% โดยจีน เวียดนาม  และเอเชียแปซิฟิก ถือเป็น 3 ตลาดหลักในกลุ่มตลาดต่างประเทศของ TWPC ซึ่งหากรวมกันทั้ง 2 ตลาด ในภาพรวมของยอดขายยังไม่กระทบ

“ขณะนี้ตลาดเวียดนามเติบโตเยอะมาก โดยคาดการณ์ GDP เวียดนามปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 8% ดังนั้น เราจึงโฟกัสที่ตลาดเวียดนามเป็นหลัก และจะขยายไป The Race of the World (การแข่งขันของโลก)  ทั้งตะวันออกกลาง, ทวีปแอฟริกา และยุโรป เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่ายังคงมีอีกหลายตลาดที่มีศักยภาพและบริษัทสามารถที่จะเข้าไปเจาะตลาดได้ โดยเราจะแสวงหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อจะเข้าไปทำการตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเติบโตทั้งหมด” นายศิว์วิศว์ กล่าว

ส่วนประเด็นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะ TWPC มีโรงงานผลิตในหลายประเทศ ทั้งในไทย เวียดนาม และกัมพูชา ขณะที่ในช่วงเกิดความขัดแย้งระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โรงผลิตแป้งของ TWPC ที่กัมพูชาได้หยุดทำการ แต่ปัจจุบันสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ปกติแล้ว และเชื่อว่าจะไม่กระทบกับผลประกอบการ เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ที่น้อยมาก เพราะโรงงานเพิ่งเริ่มดำเนินการ

“สิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน คือการปรับตัว โดยปัจจุบัน TWPC ได้ Transform บริษัทในหลายส่วน ทั้งการเสริมทีมผู้บริหารใหม่ ๆ เข้ามา การปรับพอร์ตโฟลิโอ เพิ่มสัดส่วนกลุ่มธุรกิจอาหารเป็นเกือบ 30% ของพอร์ต จากเดิมที่มีเพียงกลุ่มธุรกิจแป้งเป็นหลัก” นายศิว์วิศว์ กล่าว

ขณะที่ นางสาวจิตอาภา อัมราลิขิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน, นางสาวพัชรินทร์ วชิระวรกรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายธุรกิจอาหาร และนางสาวหทัยกานต์ กมลศิริสกุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายกลยุทธ์ ความยั่งยืน นวัตกรรม TWPC เปิดเผยกลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังปี 68 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทานและอาหารพร้อมปรุง จำนวน 3-4 รายการ ควบคู่กับการทำตลาดเชิงรุก เจาะฐานลูกค้าใหม่ และขยายช่องทางการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

พร้อมย้ำว่า แผนดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ยอดขายของ TWPC เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายทั้งไทยและเวียดนาม พร้อมเร่งขยายตลาดเอเชียแปซิฟิก (APAC) เพื่อผลักดันรายได้รวมปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายและต่อยอดสู่การสร้างกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาวซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ เมื่อเร็วๆ นี้

Back to top button