พาราสาวะถี

ไม่ต้องจด ๆ จ้อง ๆ อะไรกันแล้ว การขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของ อนุทิน ชาญวีรกูล กับความเป็นแกนนำพรรครัฐบาลเสียงข้างน้อยของภูมิใจไทย


ไม่ต้องจด จ้อง อะไรกันแล้ว การขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของ อนุทิน ชาญวีรกูล กับความเป็นแกนนำพรรครัฐบาลเสียงข้างน้อยของภูมิใจไทย ภารกิจหลักคือปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง จากกรณีที่ถูกรัฐบาลก่อนหน้าเล่นงาน ภารกิจรองคือการลุยเอาคืนพรรคเพื่อไทยไล่บี้หาประเด็นเอาผิด หรือลดทอนความน่าเชื่อถือ เห็นเป็นน้ำจิ้มหนึ่งตัวอย่างคือการที่เสี่ยหนูตอกกลับพรรคนายใหญ่ที่เตรียมจะอภิปรายในการแถลงนโยบาย ด้วยการบอกว่ายังไม่เริ่มทำงานจะอภิปรายอะไร ก่อนจะแยกเขี้ยวขู่ ถ้าตนอภิปรายกลับปมทำประชาชน ทหาร บาดเจ็บล้มตายจะเป็นอย่างไร

การเมืองน้ำเน่าก็แบบนี้ หากจำกันได้พรรคสีน้ำเงินทันทีที่ไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็ประกาศจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ตัวเองเคยร่วมงานมาทันทีเหมือนกัน เพียงแต่ถูกเบรกโดยพรรคประชาชนในฐานะแกนนำฝ่ายค้านไว้ก่อนแค่นั้น ประกอบกับมีเรื่องร้องเอาผิด แพทองธาร ชินวัตร พอดี จึงอดใจรอ กระทั่ง รับส้มหล่นแบบรู้กันอยู่แล้ว ของพรรคนี้อย่าทำเป็นไขสือ ซึ่งความจริงคงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคบกับพรรคที่ชอบเอาดีเข้าตัวมานานตั้งแต่ครั้งตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร จึงซับซับวิธีการแบบนี้เต็ม ๆ

ไม่เพียงแต่การตั้งท่าจะเอาคืน ดิสเครดิตพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ล่าสุด บรรดาลิ่วล้อภูมิใจไทยก็ออกมาประกาศทวงเก้าอี้ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรกันโครม ๆ ไม่รู้จะเรียกว่าไร้ยางอายหรืออะไรดี รู้กันอยู่ว่า พรรคของตัวเองมี สส.แค่ 69 เสียง หากเรียงตามความเหมาะสมของพรรคที่ควรจะได้เก้าอี้นี้คือ ประชาชน เพื่อไทย แล้วจึงจะตามมาด้วยพรรคสีน้ำเงิน ที่สำคัญตาม รัฐธรรมนูญไม่มีบทบัญญัติไหนระบุไว้ว่า ทั้ง 3 ตำแหน่งนั้นจะต้องเป็นของพรรครัฐบาลเท่านั้น

โดยมาตรา 118 ระบุว่า ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานและรองประธานวุฒิสภาย่อมพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระตามมาตรา 117 เมื่อขาดจากสมาชิกภาพแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ลาออกจากตําแหน่ง ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือข้าราชการการเมืองอื่น ต้องคําพิพากษาให้จําคุกแม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นกรณีที่คดียังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทําโดยประมาทความผิดลหุโทษหรือความผิดฐานหมิ่นประมาท

ขณะเดียวกัน มาตรา 119 ระบุว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา มีหน้าที่และอํานาจดําเนินกิจการของสภานั้น ๆ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ รองประธานสภามีหน้าที่และอํานาจตามที่ประธานสภามอบหมาย และปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภาเมื่อประธานสภาไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และผู้ทําหน้าที่แทน ต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานและรองประธานวุฒิสภาไม่อยู่ในที่ประชุมให้สมาชิกแห่งสภานั้น เลือกกันเองให้สมาชิกคนหนึ่งเป็นประธานในคราวประชุมนั้น

ชัดเจนจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ยิ่งเป็นรัฐบาลอายุสั้นอยู่แค่ 4 เดือน และมีเป้าหมายที่จะยุบสภาตามข้อตกลงอยู่แล้ว ลิ่วล้อของเสี่ยหนูกล้าระบุหรือไม่ว่า ที่ออกมาเรียกร้องแบบนี้นั้นต้องการที่จะให้คนของพรรคสีส้มทำหน้าที่ประธานสภาฯ เพื่อนำพาสภาไปสู่จุดมุ่งหมายที่ได้วางไว้ร่วมกัน ไม่ใช่แค่ปมการเอาดีเข้าตัวเท่านั้น การสร้างวาทกรรมทำลายคู่แข่งก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่พรรคสีน้ำเงินทำเหมือนบางพรรค สมแล้วที่เป็นขวัญใจของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ต่างกันแค่พรรคหนึ่งเล่นบทอีแอบ แต่พรรคนี้แสดงตัวให้เห็นกันแบบเปิดเผย

ความจริงตำแหน่งในสภาไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร วันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว ควรรอให้รัฐบาลได้ทำงานอย่างเป็นทางการเสียก่อน หลังจากนั้นหากกระบวนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ติดขัดมีปัญหาอันเนื่องมาจากการทำงานของประธานและรองประธานสภาฯ ค่อยออกมาเรียกร้องน่าจะได้รับความเห็นใจและรอสนับสนุนจากประชาชนมากกว่า จะบอกว่าที่ใครทีมัน คราวพรรคตัวเองพ้นจากรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้านก็ลาออกจากความเป็นรองประธานสภาฯ ให้ดูด้วยว่าท่าทีที่แสดงออก และเสียงของ สส.ที่พรรคตัวเองสังกัดนั้นเป็นอย่างไร ไม่อยากจะใช้คำว่าหัดตักน้ำใส่กะโหลกเสียบ้าง

คงกร่างเพราะคิดว่ามีแรงหนุนอันวิเศษ แต่ยิ่งมีผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้พิงยิ่งต้องเกรงใจ ให้มันพอเหมาะพอดี บทบาทของอนุทินนอกจากจัดตั้งเร่งสร้างผลงาน ทำให้พรรคสีส้มเชื่อว่าจะทำตามสัญญา อีกด้านยังต้องเอาอกเอาใจกองทัพเป็นอย่างดีด้วย หลังจากประกาศให้อำนาจทหารตัดสินใจเรื่องเปิดด่านไปแล้ว ล่าสุด ก็ย้ำว่าจะเร่งการเบิกจ่ายเงินเยียวยาต่าง ๆ สำหรับประชาชน ทหารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบซึ่งคั่งค้างมาจากรัฐบาลที่แล้ว พร้อมบอกด้วยว่า ทหารแนวหน้าจะต้องไม่อด จะลงไปดูแลถึงอาหารการกินของเจ้าหน้าที่ด้วย ถ้าทำได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับเขมร คงเป็นการทำตามข้อตกลงที่ได้คุยกันไว้จากการประชุมจีบีซีที่เกาะกงเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ฟังจาก พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มองเห็นว่า อีกฝ่ายไม่น่าจะทำตามสัญญา ปมถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดน เขมรไม่มีท่าทีที่จะดำเนินการมีแต่เพิ่มกำลังในพื้นที่ รับปากเชิงทฤษฎี แต่เชื่อว่าคงไม่นำไปสู่การปฏิบัติ สงสัยเสี่ยหนูคงต้องปรึกษากุนซือของพรรคที่ถนัดใช้มนต์เขมร น่าจะเข้าใจยุทธวิธีของเขมรดีว่าจะมาไม้ไหน เผื่อจะได้แก้เกมได้ถูกทางช่วยให้ทหารและฝ่ายความมั่นคงทำงานได้ง่ายขึ้น

อรชุน

Back to top button