
พาราสาวะถี
วันนี้ครม.หนู 1 รอเพียงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเท่านั้น จะถือว่าได้เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ เพราะหลังจากที่นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณเรียบร้อยแล้ว
วันนี้ครม.หนู 1 รอเพียงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเท่านั้น จะถือว่าได้เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ เพราะหลังจากที่นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณเรียบร้อยแล้ว อนุทิน ชาญวีรกูล ก็นั่งหัวโต๊ะประชุมครม.นัดแรกทันที ใช้เวลากันถึงดึกดื่น ก่อนจะจัดแถลงข่าวโดยมีรัฐมนตรีอยู่ร่วมคณะอย่างพร้อมเพรียง ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ทั้งนี้ นายกฯ หนูยืนยันรัฐบาลชุดนี้ไม่มีวันหยุด ทำงานกันเหมือนร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ครม.จะไม่ประชุมแค่สัปดาห์ละ 1 วัน มีปัญหาสำคัญเมื่อไหร่ต้องพร้อมประชุมกันทันที
โชว์ฟิตปั๋ง หลังจากแถลงข่าวท่านผู้นำก็ไปตรวจสอบจุดถนนทรุดตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต่อทันที เข้าใจได้ด้วยความเป็นรัฐบาล 4 เดือนจึงต้องทุ่มเททำงานกันให้เต็มที่ ถ้าผลงานเข้าตาเกิดจะยุบสภาขึ้นมา ประชาชนอาจเรียกร้องให้อยู่ต่อก็มีความเป็นไปได้ เพราะเสี่ยหนูยืนยันหนักแน่นเราจะทำตามสัญญา หลังแถลงนโยบายแล้ว จะยุบสภาตามที่ทำข้อตกลงไว้กับหัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในปลายเดือนมกราคมปีหน้า
พร้อมคาดหมายว่า ประชาชนจะได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งภายในเดือนมีนาคมหรืออย่างช้าต้นเดือนเมษายน 2569 แล้วแต่กกต.จะได้กำหนด สิ่งที่ต้องทำคู่ขนานกันกับการหย่อนบัตรหนนี้คงเป็นเรื่องประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีนี้สามารถทำได้ทันที และน่าจะเป็นการรวบทำสองเรื่องในครั้งเดียวตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั่นก็คือ ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรมีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร
ส่วนประเด็นเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ นั่นเป็นขั้นตอนการทำประชามติตามกลไกของการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ประชุมรัฐสภาจะมีมติให้ดำเนินการ ไม่ว่าจะโดยคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหรือ กมธ. หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร. ก็แล้วแต่ เมื่อสิ้นสุดกระบวนการแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ต้องนำไปทำประชามติขอความเห็นจากประชาชน โดยเงื่อนเวลาดังกล่าวน่าจะอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดใหม่แล้ว
ความแน่วแน่ของอนุทินแบบนี้ คงจะเป็นการลดแรงกดดันต่อการถูกตั้งคำถามจากคนส่วนใหญ่ว่าจะเกิดการเบี้ยวในข้อตกลงที่ทำกันไว้หรือไม่ เมื่อปลดล็อกปมความไม่ไว้วางใจทางการเมืองไปแล้ว ก็เหลือการเดินหน้าสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ อุตส่าห์ดึงคนนอกที่มีต้นทุนสูงมาลุยงานด้านเศรษฐกิจกันแล้ว ต้องทำให้ไม่เสียชื่อ ซึ่งหากทำสำเร็จมันก็อาจจะเป็นต้นแบบให้รัฐบาลที่จะมารับไม้ต่อ ต้องคิดหนักว่า การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีต้องไม่ยึดติดกับโควต้าของกลุ่มก๊วนทางการเมือง
แต่ตรงนี้คงพูดยาก เพราะโจทย์ความเป็นรัฐมนตรีเสียงข้างน้อยมันมีเก้าอี้ว่างเยอะจึงสามารถดำเนินการได้เต็มที่ ถ้าเข้าสู่โหมดรัฐบาลผสมที่มีมากพรรค และเสียงกระจัดกระจาย ตรงนั้นแหละที่จะถือเป็นเรื่องยากในการจะแบ่งปันกันให้ลงตัว กระบวนการต่อรอง การสร้างแรงกดดันจะมีมากกว่านี้หลายเท่าตัว ถือเป็นความโชคดีที่เสี่ยหนูได้โอกาสจัดรัฐบาลแบบนี้ เนื่องจากจะเป็นการเปิดช่องให้ได้แสดงฝีมือ ความสามารถในการบริหารได้อย่างเต็มที่
นโยบาย 4 ด้านเร่งด่วนชัดเจนอยู่แล้ว ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน เรื่องการลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ไฮไลท์อยู่ที่โครงการคนละครึ่งจะสามารถทำได้อย่างที่โพนทะนาไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนเรื่องอื่นไม่ว่าจะเป็นการลดค่าเดินทาง ค่าขนส่ง และค่าพลังงานเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีค่าครองชีพ มีรายจ่ายที่ลดลง คงอยู่ที่ความสามารถของ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กับ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ที่จะว่าไปแล้วทั้งสองคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในฐานะคนในแวดวงพลังงาน เรื่องค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ไม่น่าจะยาก ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่พลังงานทั้งเรื่องน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น่าสนใจคงเป็นเรื่องพลังงานทดแทน ที่เป้าหมายของเสี่ยหนูในฐานะผู้นำรัฐบาลคือจะสนับสนุนประชาชนได้ใช้มากขึ้น สะดวกขึ้นและง่ายขึ้น จะทำกันอย่างไร ด้วยความเข้าใจกลไก ข้อกฎหมายต่าง ๆ ในธุรกิจเหล่านี้ของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หากไม่สะดุดตอก็น่าจะสามารถทำได้ไม่ยากเย็นอะไร
ส่วนเรื่องปัญหาภัยทางสังคม ยาเสพติด การปราบปรามพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ทั้งหลาย รัฐบาลก่อนหน้าทำไว้ดีระดับหนึ่ง ก็อยู่ที่รัฐบาล 4 เดือนจะสานต่อหรือทำให้ดีขึ้นอย่างไร ที่แน่ ๆ เรื่องที่เป็นการเกทับปิดจบนโยบายเรือธงของเพื่อไทยคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เสี่ยหนูยืนยัน จะทำให้โดยไม่มีกาสิโนเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่มีการพนันออนไลน์ที่ถูกกฎหมาย แล้วแต่ถนัด ทางใครทางมัน ของพรรค์นี้รู้กันอยู่แล้วในแวดวงว่าไผเป็นไผ
สำหรับปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ คงไม่มีมาตรการอะไรที่แตกต่างกันมากนักแทบทุกรัฐบาล อยู่แค่ว่าจะมีวิธีการเอาใจเกษตรกรกันแบบไหนเท่านั้น สิ่งสำคัญเวลานี้คงเป็นเรื่องวัน เวลาที่รัฐบาลพร้อมจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภามากกว่า ซึ่งทางเสี่ยหนูได้ทำหนังสือถึง วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้วพร้อมที่จะแถลงตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนนี้เป็นต้นไป ด้วยความที่เป็นรัฐบาลอายุสั้นจึงต้องรีบทำงานให้เร็ว แต่เท่าที่เห็นภาพการเดินสายพบปะภาคเอกชนหลายแห่งของนายกฯ หนูแล้ว การตอบรับเป็นไปด้วยความชื่นมื่น พลังหนุนดีเยี่ยมขนาดนี้มีหรือใครจะไม่อ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ
อรชุน