ปลดล็อกตลาด

“โมนิก้า” เห็นแล้วต้องขอปรบมือรัว ๆ ให้กับตลาดหุ้นไทยวานนี้ เพราะบรรยากาศการลงทุนกลับมาคึกคักแบบจับต้องได้ หลัง SET Index ปิดที่ระดับ 1,288.26 จุด บวกไป 9.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.53 หมื่นล้านบาท เรียกว่าคนเล่นหุ้นยิ้มออกถ้วนหน้าเลย ประเด็นสำคัญที่จุดไฟในใจนักลงทุนรัว ๆ เห็นจะหนีไม่พ้น “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีป้ายแดง ที่ไม่รอช้า โชว์วิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจทันทีหลังเข้ารับตำแหน่ง ด้วยการพาทีม ครม.เศรษฐกิจ เข้าหารือกับ FETCO แบบตรงประเด็น เพื่อเร่งปลดล็อกปัญหาตลาดทุนไทยที่รอความชัดเจนมานานเพคะ

บรรยากาศสุดแสนชื่นมื่นเหมือนได้พบกัลยาณมิตรที่ดี เรียกขวัญกำลังใจคนตลาดหุ้นไม่น้อยทีเดียว งานนี้เจ้าภาพตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น จากทั้งประธานกิติพงศ์-รองฯ แดง-รองฯ จิ, ดร.กอบศักดิ์-พี่ทอม ทำให้อารมณ์การซื้อขายหุ้นคึกคักขึ้นมาทันที แต่เสียด๊าย เสียดาย “ผู้จัดการกวาง” ติดภารกิจสำคัญอยู่ต่างประเทศ สลับคิวบินกลับมาไม่ทันจริง ๆ แหม๊..เสียดายจัง..!?

ส่วนฝั่งของหุ้นดาวเด่นที่มาช่วยประคองดัชนีให้ยืนเขียวได้สวย ก็ต้องยกให้พวกกลุ่มพลังงาน ที่ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ยืนแข็งแรง รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์ และค้าปลีก ที่โดนลือกันหึ่งว่าอาจได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ “โมนิก้า” เลยอยากบอกว่า…ใครตั้งพอร์ตดี ๆ มีลุ้นฟื้นตัวรอบนี้แบบมีสไตล์ สัญญาณดี ๆ แบบนี้ อย่าเพิ่งรีบออกจากตลาดนะเจ้าคะ…เพราะเรื่องดี ๆ อาจเพิ่งเริ่มต้นก็เป็นได้

เช่นเดียวกับรายของ SAWAD ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นที่ระดับ 31.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 464 ล้านบาท “โมนิก้า” มีเรื่องดีให้แฟนคลับได้ชื่นใจต่อเนื่อง รับปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 ต.ค. 68 แล้วรับเงินเข้ากระเป๋าแบบชิลๆ วันที่ 22 ต.ค. 68 แบบนี้ถ้าจะไต่กลับไปทดสอบเป้าหมาย 24 บาท ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแม่ตัวจริงในวงสินเชื่อรายย่อยนะเจ้าคะ

เหมือนกับรายของ KKP ทางกูรูยังคงแนะนำ “ทยอยซื้อ” เพราะประมาณการกำไรปี 68 อยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จากช่วงปีก่อน ซึ่งจากปัจจัยบวกหลัก ๆ อย่างผลขาดทุนจากทรัพย์สินรอขายที่ลดลง บวกกับการตั้งสำรองที่เบาลง นั่นแหละ งานนี้เลยทำให้มีแรงไล่ราคาขึ้นมาต่อเนื่อง ก่อนจะปิดที่ระดับ 60 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 284 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าถ้ายังมีแรงซื้อหนุนแบบนี้ต่อเนื่อง มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะทดสอบแนวต้านเดิม ที่โซน 60.65–61 บาท ได้ไม่ยากเลยเจ้าค่ะ 

ขณะเดียวกันในหุ้น SCGP ราคาหุ้นเริ่มกลับตัวเป็นรูปแบบ V-Shape อย่างสวยงาม จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 19 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 421 ล้านบาท โดยแรงซื้อที่ไหลเข้ามาแบบไม่มีกั๊ก ทำให้หุ้นสามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น แบบนิ่ม ๆ กลายเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาลงจบแล้ว และกำลังพลิกตัวเป็นขาขึ้น เต็มรูปแบบ “โมนิก้า” มองว่า ถ้าแรงซื้อยังแรงดีไม่มีตกแบบนี้ ราคาหุ้นมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่โซน 19–19.70 บาท ได้ไม่ยากเลยเจ้าค่ะ 

ตามด้วย FSMART ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง มาปิดที่ระดับ 9.35 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 228 ล้านบาท ผนวกกับสัญญาณเทคนิค RSI ที่ผงกหัวขึ้น พร้อมกับ P/E ที่ 12.19 เท่า ร่วมถึงนักวิเคราะห์มองว่า ธุรกิจสินเชื่อพนักงานองค์กรที่ยังมีช่องว่างอีกมาก และมีโอกาสได้รับโครงการรัฐมาขยายรายได้ของ “ตู้บุญเติม” อีก
ด้วยปัจจัยหนุนเหล่านี้ “โมนิก้า” ประเมินว่าเป้าราคา 13 บาท ไม่ไกลเกินเอื้อมเจ้าค่ะ

ปิดท้ายด้วย CRC ก็ยังมีเรื่องให้น่าจับตา เพราะเข้าช่วงไฮซีซั่นของการจับจ่ายและการท่องเที่ยวในไตรมาส 4/68 พอดิบพอดี แถมได้อานิสงส์จากมาตรการภาครัฐอย่าง Easy E-Receipt และโครงการคนละครึ่ง ที่เตรียมคลอดเร็ว ๆ นี้ งานนี้ราคาหุ้นจึงปิดที่ระดับ 22.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 1.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 298 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่า หากกระแสช้อปปิ้งไหลแรงจริง ราคาเป้าหมายที่โบรกฯ ให้เฉลี่ย 22.09 บาท ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมเจ้าค่ะ

โมนิก้าและทีมงาน