
“อนุทิน” จ่อลงพื้นที่ชายแดน–ตั้งศูนย์อพยพ รัฐบาลยันส่ง “สีหศักดิ์” ไป UNGA 80 ไม่ขัด รธน.
นายกฯ “อนุทิน” เตรียมลงพื้นที่ชายแดนบุรีรัมย์–ศรีสะเกษ–อุบลฯ วางแผนตั้งศูนย์อพยพเสริมความปลอดภัยประชาชน พร้อมมอบอำนาจกองทัพตัดสินใจเต็มที่ ขณะเดียวกันรัฐบาลยืนยันการส่ง “สีหศักดิ์” ร่วมประชุม UNGA 80 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (29 ก.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า ในสัปดาห์นี้เตรียมลงพื้นที่จังหวัดที่มีความตึงเครียดและมีพรมแดนติดกับกัมพูชาทั้งหมด (บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี) โดยได้ประสานกับกองทัพ ตำรวจ และฝ่ายปกครองเข้าร่วมปฏิบัติการ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าจะส่งกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เสริมกำลังทหารในพื้นที่
นายอนุทิน ระบุว่า ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อจัดประชุมร่วมกัน แบ่งหน้าที่ดูแลประชาชน พร้อมวางแผนจัดตั้งศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย โดยย้ำว่าแม้ต้องอพยพออกจากบ้าน ประชาชนต้องได้รับการดูแลด้านคุณภาพชีวิตอย่างเพียงพอ ทั้งเครื่องนอน เครื่องนุ่งห่ม และสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยลดความตึงเครียดและอำนวยความสะดวก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าได้ “ไฟเขียว” มอบอำนาจให้กองทัพตัดสินใจอย่างเต็มที่ในการรักษาอธิปไตย ซึ่งหากกองทัพต้องการสิ่งใด รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ และยังไม่ได้รับรายงานปัญหาขาดแคลนอาหารของกำลังพล
ด้านนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีมีนักวิชาการและนักวิจารณ์บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 80 (UNGA 80) ของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อาจขัดรัฐธรรมนูญ ว่า รัฐบาลได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างรอบคอบและถูกต้อง
โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานต่อที่ประชุมว่า ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วม UNGA 80 ที่นครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 23–30 กันยายน 2568 โดยมีภารกิจสำคัญคือการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 27 กันยายน รวมถึงการพบหารือกับเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงท่าทีและข้อเท็จจริงของไทยในกรณีความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. ได้หารือและขอความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งยืนยันว่า หลังจาก ครม. ถวายสัตย์ปฏิญาณ ถือว่ามีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินตามมาตรา 12 ของรัฐธรรมนูญ และแม้มาตรา 162 กำหนดให้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ก็มีข้อยกเว้นให้ดำเนินการได้หากเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่กระทบต่อประโยชน์ของประเทศ
นางสาวไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า การเดินทางไปร่วมประชุม UNGA 80 มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ และเป็นโอกาสแก้ไขปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง จึงถือว่าอยู่ในกรอบกฎหมายและไม่เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ปล่อยให้ไทยเสียโอกาสบนเวทีโลก โดยเฉพาะประเด็นความสัมพันธ์กับกัมพูชา และการดำเนินการทั้งหมดอยู่ในกรอบกฎหมายทุกขั้นตอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“สีหศักดิ์” สวนกลับกัมพูชาในเวที UN “เหยื่อตัวจริงคือทหารไทย–เด็กนักเรียนที่ถูกโจมตี”