พลังงาน Quick Big Win

หนึ่งกระทรวงสำคัญบนนาวารัฐบาลอนุทิน นั่นคือกระทรวงพลังงานที่ถูกจับจ้องว่าโฉมหน้านโยบายพลังงานจะออกมาเป็นเช่นไร.!?

“อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลุกขึ้นชี้แจงกลางสภาฯ ว่านโยบายการทำงานช่วงเวลา 4 เดือน มีความตั้งใจจะเดินหน้าโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงการคลังว่าด้วย Quick Big Win

1)โครงการโซลาร์ภาคประชาชน “สร้างรายได้ ลดรายจ่าย” ด้านพลังงาน

-โซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ ครอบคลุมกว่า 300 ชุมชน หรือ 15,000 ครัวเรือน ทั่วประเทศ

-โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร มีเป้าหมายอนุมัติโครงการ 1,200 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 แสนไร่ทั่วประเทศ

-ออกมาตรการลดหย่อนภาษีโซลาร์เซลล์ โดยลดหย่อนภาษีได้ 2 แสนบาท เพื่อกระตุ้นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในครัวเรือนและตั้งเป้าไว้ 90,000 ครัวเรือน

-เร่งอนุมัติการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำ 3 เขื่อนหลักของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ทั้งเขื่อนภูมิพล, เขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนศรีนครินทร์ กำลังการผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์

2)พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบพลังงานรองรับภาคอุตสาหกรรม

-Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ เป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะอาดจากผู้ผลิตสู่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เน้นไปยังกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์เป็นหลัก

-พัฒนาระบบไฟฟ้ารองรับอุตสาหกรรมเขตตะวันออก ด้วยการพัฒนาระบบผลิตและระบบขนส่งไฟฟ้าพื้นที่ EEC โดยใช้กรอบงบประมาณเดิม

-เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ผ่านกลไกกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยตั้งใจเดินสายโปรโมตไปยังโรงงานต่าง ๆ เพื่อให้เห็นความสำคัญของกองทุนนี้

3)การสร้างความยั่งยืนระยะยาว

การเดินหน้าผลักดันและก้าวไปสู่ Net Zero 2050 โดยโครงการโซลาร์ประชาชนจะสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 3.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี รวมถึงเร่งจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) โดยทบทวนรายละเอียดแผน PDP ให้ตอบโจทย์กับเป้าหมายใหม่ Net Zero 2050 ให้เสร็จภายใน 4 เดือนนี้

เท่านั้นไม่พอ..“รัฐมนตรีอรรถพล” ระบุชัดว่ามีอีก 1 โครงการขนาดใหญ่มากช่วง 4 เดือนนี้ ตั้งใจจะนับหนึ่งให้ได้นั่นคือ “โครงการพัฒนาและดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) ในอ่าวไทย” ที่มีศักยภาพการกักเก็บกว่า 7,000 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ 

โครงการนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ใช้เวลาประมาณ 10 ปี

เอาล่ะ..ด้วยเวลาอันจำกัด 4 เดือน ในเชิงนโยบายแล้วมันคงทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านี้ แต่โจทย์ใหญ่ว่าด้วยเรื่องค่าไฟงวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย. 69) จะทำให้ตัวเลขต่ำกว่าปัจจุบัน 3.94 บาทต่อหน่วยได้อย่างไร..!!

งานนี้..คงต้องวัดใจ “อดีตผู้ว่าฯ ปตท.” คนนี้กันแล้วล่ะ..!!