CV ล้มบนฟูก.!?

เชื่อว่าหลังจากผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นกู้ของ CV ได้รู้ว่า บริษัทฯ ไปยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลละลายกลางแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา ต้องร้องเจ็บกระดองใจ...กันเป็นแถว


เชื่อว่าหลังจากผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ได้รู้ว่า บริษัทฯ ไปยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลละลายกลางแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา ต้องร้องเจ็บกระดองใจ…โอ๊ย เจ็บกระดองใจ…กันเป็นแถว

เอ๊ะ…อย่างนี้จะเรียกว่า บอร์ด CV แอบลักหลับหรือลักไก่ผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นกู้หรือเปล่า..?? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ

ที่รู้สารตั้งต้นของเรื่องนี้ เป็นผลมาจากกรณีดีลซื้อหุ้น 2 บริษัท ซึ่งเกิดไล่เลี่ยกันในช่วงกลางปี 2566…ถ้าว่าไปแล้ว ก็เป็นการขยายธุรกิจ สร้างโอกาสใหม่ของบริษัทฯ แหละ แต่เคสนี้ผิดปกติตรงที่มีการจ่ายเงินค่ามัดจำไปมากกว่า 90% ของราคาซื้อขาย ซึ่งถือว่าไม่ปกติ..!! 

โดยเฉพาะดีลซื้อหุ้นบริษัท Fernview Environmental Pty Ltd (Fernview) ซึ่งประกอบกิจการโรงงานรับและฝังกลบขยะในเมืองจินจิน ประเทศออสเตรเลีย มูลค่า 11 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 256.08 ล้านบาท จากบริษัท เอ็มแปด โฮลดิ้ง จำกัด โดยมีการจ่ายค่ามัดจำไป 10.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 256 ล้านบาท 

ส่วนอีกดีลเป็นการซื้อหุ้นสัดส่วน 20% ของบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (WTX) ซึ่งประกอบธุรกิจจัดการซากรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน ธุรกิจการถอดแยกชิ้นส่วน การถอด และการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุการใช้งาน (Dismantle Recycling) รวมทั้งการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงแข็ง (Solid recovered fuel: SRF) และธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน มูลค่า 1,040 ล้านบาท โดยจ่ายเงินค่ามัดจำไปแล้ว 180 ล้านบาท 

แต่ในเวลาต่อมาทั้ง 2 ดีลล้มไป ซึ่งแทนที่ CV จะได้เงินค่ามัดจำคืนโดยฉับพลัน…ปรากฏว่าเงินดังกล่าวอันตรธานหายไปซะงั้น โดยเฉพาะดีลซื้อหุ้น Fernview ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร จึงถือเป็นธุรกรรมที่เกี่ยวโยงกัน แต่ที่น่าแปลกธุรกรรมนี้กลับไม่ผ่านมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ผ่านเพียงแค่มติบอร์ด…ทั้ง ๆ ที่มีมูลค่าสูงควรจะได้ไฟเขียวจากผู้ถือหุ้นก่อน

เลยถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการโยกย้ายถ่ายเทเงินออกจากบริษัทฯ หรือไม่..?? ซึ่งเท็จจริงประการใด หนูไม่รู้…

แต่ที่พอรู้มันทำให้สภาพคล่องของ CV หายไปอย่างมีนัยสำคัญ..!?

จากปัญหาเงินมัดจำ นำมาสู่ปัญหาการคืนหนี้หุ้นกู้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการออกหุ้นกู้ไป 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้รุ่น CV251A, หุ้นกู้รุ่น CV257A และหุ้นกู้รุ่น CV25NA มูลค่ารวมกว่า 883 ล้านบาท ก็มีการผิดนัดชำระ และเกิด Cross Default ไปตามระเบียบ (พัก)…กลายเป็นว่า CV ต้องเผชิญเงินหาย…หนี้ค้างบานเบอะนะเนี่ย

เป็นที่มาให้ทั้งผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นกู้ต้องไปร้องแรกแหกกระเชอต่อคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร และล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 29 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นกู้ก็เข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอให้เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว

แต่ดูเหมือน ก.ล.ต.ยังไม่ทันได้ขยับเลยมั้ง เพราะเช้าวันถัดมา (30 ก.ย. 2568) บอร์ด CV ก็ชิงยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลละลายกลางซะงั้น…

งานนี้เป็นเกมล้มบนฟูกชัด ๆ..!!

เจ้าหนี้โดนน็อกน้ำ เพราะหนี้ถูกสตัฟฟ์เอาไว้ จนกว่า CV จะรอดหรือไม่รอดก็ว่ากันไป…แต่เจ้าของสบาย ไม่ต้องแบกรับภาระหนี้อีกต่อไป

ก็ต้องมาลุ้นกันว่า ศาลล้มละลายกลางจะบ้าจี้…อุ๊ย ไฟเขียวให้  CV เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการหรือเปล่า..??

แล้วที่แสบไปกว่านั้น อยู่ ๆ ก็มีเจ้าหนี้โผล่ขึ้นมาอีกราย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และภรรยาที่มีการปล่อยกู้ให้กับ CV ตั้งแต่วันที่ 19-30 ก.ย. 2568 พอดิบพอดี ส่วนรายละเอียดปล่อยกู้กันยังไง..?? ไปหาอ่านใน SET ล่ะกัน

เลยถูกตั้งข้อสังเกตว่า 1) เพื่อให้มีหนี้เยอะ ๆ จะได้เข้าเงื่อนไขหนี้สินล้นพ้นตัวหรือเปล่า..?? และ 2) จะได้มีสถานะเป็นเจ้าหนี้อีกรายของ CV เพื่อจะได้มีสิทธิ์มีเสียงในการยกมือโหวตหรือไม่..?? ไม่รู้ ๆๆ

แต่เบื้องต้นถ้าดูจากงบการเงินในไตรมาส 2/2568 ซึ่งบริษัทฯ ยังมีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,315.61 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3,260.11 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม 1,944.50 ล้านบาท ก็ยังไม่เข้าข่ายหนี้สินล้นพ้นตัวนะจิบอกให้…แล้ว  CV ใช้เงื่อนไขอะไรไปยื่นศาลล้มละลายกลางเพื่อขอเข้าฟื้นฟูกิจการละเนี่ย..?? อยากรู้จัง..!!

จะว่าไปคนที่เป็นกุนซือออกแบบเกมนี้ให้กับ CV นี่สวดยอดเลยลวกเพี้ย…

…อิ อิ อิ…

Back to top button