“5 หุ้นโรงแรม” วิ่งคึก! รับไฮซีซั่น “มัลดีฟส์-อังกฤษ” ดันรายได้ Q3 โตแรง

5 หุ้นโรงแรมวิ่งคึก รับรายได้ห้องพักไตรมาส 3/68 โตแรง จากมัลดีฟส์-อังกฤษ ขณะโรงแรมในไทยเริ่มฟื้นตัว คาดไตรมาส 4 เร่งตัวต่อเข้าสู่ไฮซีซัน โบรกฯชู CENTEL-ERW โดดเด่น


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (2 ต.ค.68) ราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมปรับตัวขึ้นยกแผง ณ เวลา 10.31 น. นำโดย บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC อยู่ที่ระดับ 2.30 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.60% สูงสุดที่ระดับ 2.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.22 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60.70 ล้านบาท

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL อยู่ที่ระดับ 31.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 3.28% สูงสุดที่ระดับ 31.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31.76 ล้านบาท

บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW อยู่ที่ระดับ 2.64 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 2.33% สูงสุดที่ระดับ 2.66บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.88 ล้านบาท

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT อยู่ที่ระดับ 23.30 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.30% สูงสุดที่ระดับ 23.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 23.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35.05 ล้านบาท

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR อยู่ที่ระดับ 1.56 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 1.30% สูงสุดที่ระดับ 1.57 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.54 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.75 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่ารายได้ต่อห้องพัก RevPAR ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2568 ออกมาผสมผสานกันระหว่างลดลง 12% ถึงเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยการเติบโตโดดเด่นเกิดจากการกลับมาเปิดโรงแรมและสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ยกตัวอย่าง SHR ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโดดเด่นที่สุด โดยได้รับแรงานับสนับสนุนจากการเติบโตอย่างมากในไทยที่เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าหลังการปรับปรุงโรงแรม รวมถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในมัลดีฟส์ที่เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

CENTEL เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าก็ทำ RevPAR บวกเช่นกัน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากโรงแรมที่กลับมาเปิดในไทยและความแข็งแกร่งต่อเนื่องในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ MINT ทำ RevPAR ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากกว่า 50% ของจำนวนห้องในไทยอยู่ระหว่างการปรับปรุง ส่วนธุรกิจยุโรปยังคงทรงตัว

สำหรับโรงแรมที่เน้นตลาดไทยเป็นหลัก เช่น ERW ลดลง 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ารวมไปถึง AWC (ลดลง 2 หลัก) เผชิญแรงกดดันต่อ RevPAR อย่างมากจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงช้า

ทั้งนี้ ในประเทศไทย RevPAR มีความแตกต่างกันอย่างมาก สำหรับโรงแรมที่รายงานการเติบโตเป็นบวก คือ SHR และ CENTEL จากการกลับมาเปิดโรงแรมที่ปรับปรุงใหม่เป็นปัจจัยสำคัญ ขณะที่ โรงแรมไทยอื่นๆ ส่วนใหญ่รายงาน RevPAR ลดลงหลัก 2 หลัก

หากมองไปที่ต่างประเทศ อาทิ มัลดีฟส์ RevPAR ของ SHR จะเพิ่มขึ้น 24% และ MINT เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำผลงานได้ดีจากการใช้กลยุทธ์การตลาดที่เข้มข้น รวมทั้งการขยายฐานลูกค้า ในขณะที่ CENTEL ยังติดลบลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุเนื่องจากอยู่ในช่วง early ramp-up ของโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ส่วนในยุโรปนั้น MINT มี RevPAR ทรงตัว โดยมีอัตราการเข้าพักและค่าห้องพักคงที่ ส่วน SHR แสดงแนวโน้มดีขึ้น จากปรับแบรนด์ใหม่และกลยุทธ์การตั้งราคาที่ดีขึ้น

ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการของโรงแรมไทยในไตรมาส 3/68 จะออกมาแบบผสมผสานขึ้นอยู่กับการโครงสร้างรายได้และแนวโน้ม RevPAR ของแต่ละบริษัท โดยบริษัทที่ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์จะทรงตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่เติบโตจากไตรมาสก่อน คือ CENTEL หลังได้รับแรงหนุนจาก RevPAR บวกและธุรกิจ F&B ที่ฟื้นตัว แต่ยังคงถูกจำกัดการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากขาดทุนที่ต่อเนื่องของโรงแรมในมัลดีฟส์ ด้าน ERW แม้ RevPAR จะปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ผลประกอบการเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ายังคงถูกกดดันจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าผลประกอบการที่จะเติบโตทั้ง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและจากไตรมาสก่อน ได้แก่ AWC, MINT และ SHR โดย AWC ได้แรงสนับสนุนจากจำนวนห้องที่เพิ่มขึ้น แม้ RevPAR จะลดลง

สำหรับ MINT จาก RevPAR ที่ทรงตัวการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องและต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการ deleveraging ส่วน SHR กลับมามีกำไร (จากขาดทุนในไตรมาส 3/2567) โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมไทยที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวของพอร์ตยุโรป

สำหรับหุ้นโรงแรมไทยที่อ่อนตัวลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัว ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการจะฟื้นตัวในครึ่งหลักปี 2568 หลังผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2568 โดยเฉพาะในไทย ซึ่ง RevPAR กำลังฟื้นตัว และการจองล่วงหน้าปรับตัวดีขึ้นเข้าสู่ปลายปี 2568 แม้การฟื้นตัวของกำไรจากไตรมาสก่อนจะเกิดขึ้น แต่การเติบโตแบบเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อาจยังคงอ่อนตัวในบางบริษัท

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า RevPAR ในช่วงไตรมาส 3/2568 ยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับโรงแรมที่มีฐานรายได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะในมัลดีฟส์และสหราชอาณาจักร จากการขยายฐานลูกค้าและการปรับปรุงโรงแรม ขณะที่โรงแรมในไทยเริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัว โดยการปรับตัวลดลง YoY เริ่มน้อยลง

ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่าการฟื้นตัวนี้จะเร่งขึ้นในไตรมาส 4/2568 ซึ่งตรงกับช่วงไฮซีซันของไทย จากการจองล่วงหน้าที่ปรับตัวดีขึ้น แนวโน้มดังกล่าวน่าจะสนับสนุนการฟื้นตัวของกำไรจากไตรมาสก่อน ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งยังคงมุมมอง Neutral ต่อกลุ่มโรงแรม โดยมี Top Picks ได้แก่ CENTEL ให้ราคาเป้าหมาย 37 บาท และ ERW ให้ราคาเป้าหมาย 3.20 บาท จากแรงหนุนไฮซีซันที่กำลังมาถึง

Back to top button