
SC บวกต่อ 2% รับแผน 5 ปี ตั้งเป้ากำไร 3 พันลบ. พร้อมโบรกชูราคา 2.13 บาท
SC บวกต่อ 2% รับแผนธุรกิจระยะยาว 5 ปี ตั้งเป้ากำไรไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ภายในปี 2573 พร้อมขยายฐานลูกค้าอสังหาริมทรัพย์และดันธุรกิจ Engine2 ให้มีสัดส่วนราว 30% ของกำไร เสริมความแข็งแกร่งและความได้เปรียบจากการกระจายธุรกิจในระยะยาว โบรกแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมาย 2.13 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ธ.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ณ เวลา 10:19 น. อยู่ที่ระดับ 1.68 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 1.82% ราคาสูงสุดที่ระดับ 1.69 บาท ราคาต่ำสุดที่ระดับ 1.65 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6.87 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่าจากการที่ SC เดินหน้าแผนธุรกิจระยะยาว 5 ปี ตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเป้าหมายกำไรมากกว่า 3 พันล้านบาท ภายในปี 2573 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 17 พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้กว้างขึ้น และเพิ่มบทบาทของธุรกิจ Engine 2 ให้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของกำไร ซึ่งจะช่วยเสริมความได้เปรียบในการกระจายความเสี่ยงไปยังหลายธุรกิจ และยกระดับบริษัทสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีโครงสร้างรายได้หลากหลายมากขึ้น
สำหรับปี 2569 คาดว่ากำไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการมีโครงการคอนโดมิเนียมครบกำหนดโอนเพิ่มขึ้นจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ COBE Ratchada–Rama 9 และ COBE Kaset–Sripatum หลังจากปี 2568 ไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมครบกำหนดโอน โดยคาดว่ากำไรปี 2569 จะอยู่ที่ 1,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ การปรับรูปแบบสินค้า (Product) ใหม่ คาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) กลับมาปรับตัวสูงขึ้น
ในส่วนของธุรกิจ Engine 2 ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมจำนวน 3 แห่ง รวม 545 ห้อง และคลังสินค้า พื้นที่รวมประมาณ 1.4 แสนตารางเมตร ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานได้เต็มปีในปี 2569 ส่งผลให้ส่วนแบ่งขาดทุนลดลง ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีถัดไปคาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ลดลง โดยมุ่งเน้นการลดระดับสต๊อกและปรับปรุงสินค้าให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มเห็นสินค้าใหม่จากการปรับ Product ในช่วงครึ่งหลังของปี 2569 และปีดังกล่าวจะเป็นปีที่บริษัทเริ่มกลับมาสะสมที่ดินเพิ่มมากขึ้น รวมถึงอาจเห็นการลงทุนในธุรกิจใหม่ภายใต้ Engine 3 ที่มีศักยภาพ เช่น ธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Service) และธุรกิจ Future Living เป็นต้น
สำหรับแผนระยะยาว 5 ปี บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ให้กว้างขึ้นในกลุ่มราคาสูงที่มีอยู่เดิม พร้อมขยายสัดส่วนโครงการทาวน์โฮม คอนโดมิเนียมในรูปแบบการร่วมทุน (JV) และการพัฒนาโครงการในจังหวัดท่องเที่ยวมากขึ้น ควบคู่กับการเติบโตของธุรกิจ Engine 2 โดยตั้งเป้าจำนวนห้องพักโรงแรมรวม 2,000 ห้อง และพื้นที่คลังสินค้าประมาณ 6.0–7.0 แสนตารางเมตร ซึ่งจะเข้ามามีสัดส่วนกำไรราวร้อยละ 30 ของกำไรรวม
อย่างไรก็ดี ฝ่ายนักวิเคราะห์ ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SC ปี 2569 ที่ 2.13 บาทต่อหุ้น โดยอิงอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ที่ระดับ 5.5 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ลบด้วยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.0 เท่า พร้อมคำแนะนำ “ซื้อ”

