STELLA สวอปหุ้น WEH

หากเอ่ยชื่อหุ้น STELLA นักลงทุนหลายคนอาจคิดว่าเป็นหุ้นน้องใหม่ป๊ะเนี่ย...แต่ไม่ใช่นะ เพราะ STELLA ถอดรูปมาจาก NUSA บมจ.เก่าแก่ที่เวียนว่ายในตลาดหลักทรัพย์ฯ มากว่า 3 ทศวรรษแล้ว


หากเอ่ยชื่อหุ้นบริษัท สเตลล่า เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ STELLA นักลงทุนหลายคนอาจคิดว่าเป็นหุ้นน้องใหม่ป๊ะเนี่ย…แต่ไม่ใช่นะ เพราะ STELLA ถอดรูปมาจากบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA บมจ.เก่าแก่ที่เวียนว่ายในตลาดหลักทรัพย์ฯ มากว่า 3 ทศวรรษแล้ว (เข้าตลาดฯ 10 ส.ค. 2535) แถมเป็นหุ้นที่มีวีรกรรมฉาวโฉ่ และถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษไปเมื่อ 2 ปีก่อน…จำกันได้บ่

จาก NUSA มาถึง STELLA ในวันนี้มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ซึ่งว่าด้วยเรื่องการได้มาซึ่งสินทรัพย์ และรายการที่เกี่ยวโยงกัน และการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP 

โดยช็อตแรก STELLA จะเข้าซื้อหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี  โฮลดิ้ง จำกัด (WEH)  เพิ่มเติมจำนวน 3,538,017 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.25% จากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 21 ราย ที่ราคาหุ้นละ 400 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,415.21 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ STELLA  ถือหุ้น WEH เพิ่มเป็น 10.37% จากเดิมถืออยู่ 7.12%

แต่การซื้อหุ้น WEH เพิ่มเติมครั้งนี้ ไม่ได้ชำระค่าหุ้นเป็นเงินสดนะ จะใช้วิธีการสวอปหุ้น หรือออกหุ้นเพิ่มทุนไปแลก..!!

โดย STELLA จะออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 7,076.03 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ WEH จำนวน 21 ราย ที่ราคาหุ้นละ 0.20 บาท หรือเทียบเท่ากับอัตราแลกหุ้น 1 หุ้น WEH ต่อ 2,000 หุ้น STELLA

นั่นหมายความว่า STELLA ไม่ต้องควักเงินจ่ายสักแดงเดียว…

โอเค…แม้จะเกิดไดลูชั่นเอฟเฟกต์จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ได้แอสเซทที่ดีเข้ามาอยู่ในพอร์ตเพิ่มขึ้น…

แล้วต้องไม่ลืมว่า WEH เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานลมรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำนวนทั้งสิ้น 8 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 717 เมกะวัตต์ มีกังหันลม 270 ต้น ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาไปจนถึงจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีขนาดพื้นที่รวมกว่า 850 ตารางกิโลเมตร โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังการผลิตรวมตามสัญญาอยู่ที่ 690 เมกะวัตต์

ที่สำคัญ ทุกโครงการของ WEH ได้ COD หมดแล้วนะจิบอกให้…

ทำให้ WEH เป็นเครื่องผลิตเงินสดดี ๆ นี่เอง …โดยในปี 2565 มีรายได้รวม 10,740.49 ล้านบาท กำไร 5,283.29 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้รวม 11,384.45 ล้านบาท กำไร 5,779.23 ล้านบาท และปี 2567 มีรายได้รวม 11,313.44 ล้านบาท มีกำไร 5,388.27 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2567 มีกำไรสะสมกว่า 22,006.94 ล้านบาทเลยทีเดียว

แล้วถ้าสาวให้ลึกลงไปจะเห็นถึงความจำเป็นของ STELLA สะท้อนได้จากงบงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งมีสินทรัพย์หมุนเวียนอยู่ที่ 2,406.80 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียน 4,273.36 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสภาพคล่องเพียง 0.56 เท่า โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและการลงทุนติดลบรวม 114.29 ล้านบาท แต่มีภาระต้องชำระคืนหุ้นกู้ 793.00 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯ ขายหุ้นกู้ได้เพียง 432.00 ล้านบาท บวกกับได้รับเงินเพิ่มทุนเข้ามา 328.00 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ส่งผลให้บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิ 108.30 ล้านบาทเท่านั้น

มิหนำซ้ำ ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 ยังมีตัวเลขขาดทุนสะสมก้อนโตกว่า 6,830.14 ล้านบาท

งั้นชัดเจนการซื้อหุ้น WEH ของ STELLA ครั้งนี้ ไม่ได้จะต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มอะไรหรอก แต่เพื่อแก้ปัญหาชีวิต…เพิ่มสภาพคล่องมากกว่า…

อ้อ…ยังไม่รู้กันใช่มั้ยว่า WEH นอกจากจะเป็นแอสเซทที่ดีแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลอัตราที่สูง และสม่ำเสมอด้วยนะ โดยในปี 2567 จนถึงไตรมาส 2/2568 WEH จ่ายเงินปันผลให้กับ  STELLA จำนวน 4 ครั้ง คิดเป็นเงินรวม 204.55 ล้านบาทเลยทีเดียว

มิน่าล่ะ…STELLA ถึงซื้อหุ้น WEH เพิ่ม..!?

ฟากผู้ถือหุ้นเดิมของ WEH จากเดิมเคยได้ตรง ๆ ต่อไปก็ได้ทางอ้อมผ่าน STELLA แทน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า ผู้ถือหุ้นเดิมที่ขายหุ้นให้  STELLA ก็เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ  STELLA นั่นแหละ อย่างบริษัท ดีดี มาร์ท โฮลดิ้ง จำกัด ก็เป็นของ “กลุ่มกิตติอิสรานนท์” อยู่แล้ว ซึ่งแม้จะเสีย WEH ไป ก็มาถือทางอ้อมแทน แลกกับการที่ STELLA รอดตาย…

อาจจะดูเหมือนเสีย…แต่ก็ไม่ได้เสียอะไรนะจิบอกให้…

…อิ อิ อิ…

Back to top button