“สหรัฐ-อังกฤษ” เปิดปฏิบัติการถล่มเครือข่าย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์-ฟอกเงิน” กัมพูชา

สหรัฐ-อังกฤษ เปิดปฏิบัติการร่วมถล่มเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา พุ่งเป้านายเฉิน จื้อ เจ้าของปรินซ์ กรุ๊ป ขบวนการหลอกลวงบิตคอยน์ และค้ามนุษย์ทั่วภูมิภาค หลังสหรัฐประกาศยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 490,000 ล้านบาท พร้อมคว่ำบาตรบุคคล-บริษัท 146 ราย ตัดขาดช่องทางฟอกเงิน


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (15 ต.ค. 68) สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้ประกาศปฏิบัติการร่วมครั้งใหญ่ เพื่อจัดการกับเครือข่ายสแกมเมอร์ใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแหล่งรวมการฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล การดำเนินการครั้งสำคัญนี้พุ่งเป้าไปที่ นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) มหาเศรษฐีชาวกัมพูชาและประธาน กลุ่มปรินซ์ กรุ๊ป (Prince Group) ซึ่งถูกทางการสหรัฐฯ กำหนดให้เป็น องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (TCO)

โดยนายเฉิน จื้อ และปรินซ์ กรุ๊ป ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังอาณาจักรอาชญากรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่ใช้แรงงานทาสในศูนย์สแกมเมอร์หลายแห่งในกัมพูชา โดยเหยื่อที่ถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับเป็นทาสจะถูกบีบให้กระทำการหลอกลวงเหยื่อที่เรียกว่า กลโกง “เชือดหมู” ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางออนไลน์เพื่อล่อลวงเหยื่อ ก่อนจะหลอกให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลปลอมจนสูญเสียเงินจำนวนมาก

ขณะที่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้เปิดเผยคำฟ้องต่อ นายเฉิน จื้อ พร้อมทั้งประกาศยึดทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงฯ นั่นคือ บิตคอยน์ (Bitcoin) จำนวน 127,271 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 490,000 ล้านบาท โดยสหรัฐฯ กล่าวหาว่า ทรัพย์สินเหล่านี้เป็นกำไรที่ได้จากปฏิบัติการสแกมเมอร์ของ นายเฉิน จื้อ และขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังได้ประกาศคว่ำบาตรบุคคลและนิติบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับปรินซ์ กรุ๊ป รวมทั้งสิ้น 146 ราย ซึ่งรวมถึงตัวเฉิน จื้อ, ผู้บริหารระดับสูง และบริษัทที่ใช้เป็นฉากบังหน้าทั้งที่จดทะเบียนในกัมพูชา ฮ่องกง สิงคโปร์ หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ เครือข่ายบังคับใช้ กฎหมายทางการเงิน (FinCEN) ยังได้กำหนดให้ ฮุ่ยวัน กรุ๊ป (Huione Group) เป็นองค์กรที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนในการฟอกเงิน เพื่อตัดขาดสถาบันการเงินกัมพูชาแห่งนี้ออกจากระบบการเงินของสหรัฐฯ อย่างเด็ดขาด

โดยสหรัฐฯ อ้างว่า ฮุ่ยวัน กรุ๊ป มีบทบาทในการฟอกเงินที่มาจากการฉ้อโกงออนไลน์เป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังคาดว่ามีส่วนช่วยเกาหลีเหนือในการฟอกเงินจากการจารกรรมออนไลน์อย่างน้อย 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วย

ด้าน สหราชอาณาจักร ก็สมทบด้วยการสั่งอายัดทรัพย์สินและสั่งห้ามเดินทาง ทั้ง นายเฉิน จื้อ, ภรรยา และองค์กรต่างๆ ในเครือ โดยยึดคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนเหนือ และทรัพย์สินอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของเครือข่ายนี้ได้สำเร็จ

การผนึกกำลังของสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างแบบแผนใหม่ในการบังคับใช้กฎหมายข้ามประเทศที่รวมข้อมูลข่าวกรองทางการเงิน การคว่ำบาตร และมาตรการต่อต้านการค้ามนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมุ่งเป้าจัดการกับการเงินที่ผิดกฎหมายจากต้นตอ โดยโจมตีพร้อมกันในหลายมิติ ทั้งระดับผู้นำ บริษัทบังหน้า กระเป๋าเงินดิจิทัล และช่องทางการฟอกเงิน อย่างไรก็ดี นายเฉิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ วินเซนต์ (Vincent) ยังคงอยู่ในระหว่างการหลบหนี

“นายเฉินเป็นผู้นำของหนึ่งในขบวนการฉ้อโกงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นผู้ผลักดันอุตสาหกรรมผิดกฎหมายที่กำลังแพร่ระบาดในระดับโลก” โจเซฟ โนเซลลา อัยการสหรัฐฯ กล่าว และเสริมว่า “โครงการหลอกลวงการลงทุนของกลุ่มปรินซ์ได้สร้างความสูญเสียมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และความทุกข์ยากอย่างนับไม่ถ้วนต่อเหยื่อทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในนิวยอร์ก โดยอาศัยแรงงานจากการค้ามนุษย์ที่ถูกบังคับให้ทำงานโดยไม่สมัครใจ”

ข้อมูลจาก สำนักงานอัยการ ระบุว่า กลุ่มปรินซ์ ซึ่งดำเนินธุรกิจในกว่า 30 ประเทศ ได้จัดตั้งเครือข่ายสแกมเมอร์ที่มีการบังคับใช้แรงงานทั่วกัมพูชา ซึ่งในค่ายดังกล่าวผู้ที่ถูกกักขังและถูกบังคับให้ทำงานในโครงการฉ้อโกงการลงทุนคริปโทฯ ได้ขโมยเงินจากเหยื่อในสหรัฐฯ และทั่วโลกเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ขบวนการเหล่านี้หลอกล่อเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยอ้างว่าหากเหยื่อโอนเงินคริปโทฯ ให้ พวกเขาก็จะนำไปลงทุนและสร้างกำไร แต่ในความเป็นจริง เงินเหล่านั้นจะถูกขโมยจากเหยื่อ และนำไปฟอกเงินเพื่อประโยชน์ของผู้ก่อเหตุ

Back to top button