แบงก์สหรัฐเจ๊ง?

สิ่งที่ “โมนิก้า” ยังคิดไม่ตกก็คือ ทำไมตลาดหุ้นไทยถึงโดนเขย่าบ่อยเหลือเกิน ทั้งที่ภาพรวมในด้านต่าง ๆ ไปได้ดีกว่าเมื่อก่อน


สิ่งที่ “โมนิก้า” ยังคิดไม่ตกก็คือ ทำไมตลาดหุ้นไทยถึงโดนเขย่าบ่อยเหลือเกิน ทั้งที่ภาพรวมในด้านต่าง ๆ ไปได้ดีกว่าเมื่อก่อน ซึ่งเห็นได้จากอาการที่คนทั่วไปตื่นเต้นกับโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน และน่าจะทำให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจหมุนแรงอีกรอบนั้น ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ผลงานของบริษัทจดทะเบียนในโค้งสุดท้ายฟื้นตัวแรงไม่ใช่เหรอจ๊ะ

ด้วยเหตุนี้อีฉันเลยเชื่อว่า ตราบใดที่ดัชนียังสามารถยืนเหนือแนวรับเดิมที่บริเวณ 1,260 จุดได้อย่างมั่นคง ก็มีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะเด้งกลับขึ้นไปอีกครั้ง (เหมือนในช่วงเดือนครึ่งที่ดัชนีเคลื่อนตัวแบบ W-Shape) แต่ในระหว่างนี้ตลาดหุ้นไทยต้องต้านแรงเสียดทานจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศให้ได้เสียก่อน หลังแบงก์สหรัฐฯ เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับตั้งสำรองหนี้บานเบอะ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องฉ้อโกงเกิดขึ้นอีกแบบนี้..เสียววาบเลยค่ะ

เนื่องจากอีฉันยังจำภาพแบงก์สหรัฐฯ เจ๊งได้ติดตาไม่รู้ลืม โดยเฉพาะการที่แบงก์ใหญ่อย่าง “เลห์แมน บราเดอร์ส” ล้มละลายในวันที่ 15 ก.ย. 51 มันถือเป็นการล้มละลายใหญ่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยค้ำประกัน (mortgage-backed securities) และผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้แบงก์ขาดทุนมหาศาล และประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง..ยังจำกันได้ไหม?

งานนี้ไม่ได้บอกให้แฟนคลับตื่นตระหนก แต่อยากให้เตรียมตัวรับผลกระทบทางอ้อมมากกว่า เพราะเป็นช่วงที่หุ้นกลุ่มแบงก์ และไฟแนนซ์ประกาศงบไตรมาส 3 พอดี แต่โชคดีที่แบงก์ไทยเคยมีประสบการณ์เจ๊งกันมาก่อน จึงทำให้หลังบ้านแข็งปึ้กเกินจะซวนเซ อีฉันเลยมองว่า การที่ดัชนีลงมายืนปิดในระดับ 1,274.61จุด ลบไป 16.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.67 หมื่นล้านบาท เป็นการลงเกินจริงไปหน่อยก็เท่านั้นเองค่ะ

คิดดู!..ขนาดในรายของ SCB ยังขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 130 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 892 ล้านบาทได้เลย  แถมรูปแบบการขยับตัวก่อนหน้านี้ก็เป็นลักษณะไซด์เวย์อัพ “โมนิก้า” ถึงมั่นใจเหลือเกินว่า หุ้นตัวนี้ยังเป็นทีเด็ดสำหรับการลงทุน เพราะในแง่ราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้บริเวณ 148 บาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเพียบเลยนะคุณพี่

เช่นเดียวกับในรายของ MTC ซึ่งนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 51 บาท ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลงทุนในเที่ยวนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาหุ้นเพิ่งเริ่มผงกหัวขึ้นใหม่ แถมในช่วงกลางเดือนก่อนหุ้นเคยขึ้นไปถึงระดับ 44 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นลองประเมินการยืนปิดที่ระดับ 40.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 228 ล้านบาท เหมาะต่อการเล่นตามน้ำไหมจ๊ะ

ส่วนรายที่น่ากังวลจริงกลายเป็นหุ้น IVL หลังถูกขายลงมาเรื่อย ๆ ร่วมเดือน จากหุ้นที่เคยอยู่ในระดับ 24 บาท มาวานนี้หุ้นลงมายืนอยู่ที่ระดับ 19.40 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 532 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์กันว่า ธุรกิจปิโตรเคมีกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่เหตุไฉนราคาหุ้นดันไหลลงแบบไม่มีดิสก์เบรก พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 4 เดือนได้ล่ะค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น LH เพื่อชี้ให้เห็นปรากฏการณ์สาดหุ้นไม่พัก จนสุดท้ายหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 3.82 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 253 ล้านบาท ท่ามกลางความกังวลอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นในเร็ววันแบบนี้ เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่ทำให้อีฉันหนักใจเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้หลายคนเชื่อว่า ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่อย่าง “วิทัย” จะเข้ามาช่วยปลุกความหวังขึ้นมาได้ใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยจ้าพี่!

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button