FSX เข้าซื้อหุ้น “อีลิท คอนซัลติ้ง” สัดส่วน 50.08% รุกขยายบริการโทเคนดิจิทัล

ฟินันเซีย เอกซ์ แจ้งเข้าซื้อหุ้น “อีลิท คอนซัลติ้ง (2022)” สัดส่วน 50.08% ดันเป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ พร้อมเปลี่ยนชื่อสู่ “ฟินันเซีย พอร์ทัล” เดินหน้าธุรกิจระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล


บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ FSX แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 10/2568 ประชุมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท อีลิท คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (2022) จำกัด (บริษัท เป้าหมาย) ซึ่งประกอบธุรกิจผู้ให้บริการ ระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) จากผู้ขายซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงของบริษัทฯในสัดส่วนร้อยละ 50.08 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

ทั้งนี้ ณ วันที่มีการซื้อขายหุ้นเสร็จสมบูรณ์ อีลิท คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (2022) จะมีสถานะเป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ของบริษัทฯ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ฟินันเซีย พอร์ทัล จำกัด (บริษัทย่อยแห่งใหม่) ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 12 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะถือหุ้นโดยตรงสัดส่วนร้อยละ 49.00 และ บริษัท เอฟเอสที 1 จำกัด (FST 1) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 1.08 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งบริษัทเป้าหมายรายที่ 1 จะถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 14.92, ผู้ก่อตั้งบริษัทเป้าหมายรายที่ 2 ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 13.00, ผู้ก่อตั้งบริษัทเป้าหมายรายที่ 3 ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 13.00 และผู้ถือหุ้นรายย่อยบุคคลธรรมดา 4 ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนร้อยละ 9.00

ส่วนโครงสร้างกรรมการบริษัทย่อย เป็นดังนี้ 1.นายวราห์ สุจริตกุล กรรมการตัวแทนของบริษัทฯ, 2. นายช่วงชัย นะวงศ์ กรรมการตัวแทนของบริษัทฯ, 3. นายชวนเหยา เฉิน กรรมการตัวแทนของบริษัทฯ, 4. นายฐิติภัทร์ เจริญชัยพงษ์, 5.นายวฤธ วงศ์ศรีรุ่งเรือง และ 6.นายประยุทธ ศุภวราพงษ์

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิแต่งตั้งกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทฯ อีก 1 ราย รวมเป็น 4 ราย จากกรรมการของบริษัทย่อยแห่งใหม่ทั้งหมด 7 ราย โดยกรรมการอีก 1 รายดังกล่าวซึ่งอยู่

ขณะที่ ภายหลังการซื้อขายหุ้นเสร็จสมบูรณ์ บริษัทย่อยแห่งใหม่ มีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียน อีกจำนวน 6,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 12,000,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 18,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 60,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายอื่นของบริษัทย่อยแห่งใหม่สละสิทธิที่จะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว บริษัทฯ หรือ FST 1 อาจจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในจำนวนที่เกินกว่าสิทธิที่ตนมีอยู่

ส่งผลให้บริษัทฯ อาจถือหุ้นในบริษัทย่อยแห่งใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ร้อยละ 50.08 โดยในกรณีที่ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดนอกจาก บริษัทฯ และFST 1 จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว บริษัทฯ และ/หรือ FST1 จะถือหุ้นในบริษัทย่อยแห่งใหม่คิดเป็นไม่เกินกว่าร้อยละ 66.72 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

Back to top button