ขึ้นช่วงสั้นๆ

หากพูดกันตามจริงจะเห็นว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะมีอะไรที่ทำให้กังวลใจสักเท่าไหร่ เพราะงบแบงก์ไตรมาส 3 ที่ประกาศล่าสุด ก็ออกมาดีเหมือนที่คาดการณ์กันไว้


หากพูดกันตามจริงจะเห็นว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะมีอะไรที่ทำให้กังวลใจสักเท่าไหร่ เพราะงบแบงก์ไตรมาส 3 ที่ประกาศล่าสุด ก็ออกมาดีเหมือนที่คาดการณ์กันไว้ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,290.72 จุด บวกไป 6.25 จุด ด้วยมูลค่ากาซื้อขาย 3.43 หมื่นล้านบาท เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ผนวกกับบรรดาเกจิอาจารย์ดังส่วนใหญ่ก็มองไปในทางเดียวกันว่า กำไรไตรมาส 4 จะออกมาดีแบบนี้..ดัชนีพร้อมไปต่อนะจะบอกให้

ถึงกระนั้นต้องเผื่อใจไว้นิดหนึ่งว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยถูกเขย่าเป็นระยะ “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า ดัชนีจะเดินหน้าขึ้นไปได้ไกลขนาดไหน? เพราะปลายสัปดาห์ก่อนเพิ่งถูกขายหนักในจังหวะที่เทคตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,300 จุด ผนวกับมีวันหยุดมาคั่นกลางพอดี อีฉันเลยเดาว่า วันนี้น่าจะมีแรงขายออกมาอีก หลังดาวโจนส์ฟิวเจอร์เริ่มย่อตัวลงมาอีกครั้งพะยะค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น EGCO ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นที่พุ่งขึ้นแรงก่อนหน้านี้ และกำลังถูกเทขายทำกำไรเป็นวันที่ 2 จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 132.50 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 428 ล้านบาท อาจเป็นภาพที่น่ากังวลใจว่า หุ้นจะไหลลงไปหาฐานเก่าที่บริเวณ 115 บาทก็จริง แต่อย่าลืมว่า เที่ยวนี้เป็นการคัมแบ็กที่มาพร้อมกับความคาดหวังกำไรจะออกมาดีสุด ๆ นะตัวเอง

ส่วนรายที่มีปัญหากำไรแน่ ๆ อย่างหุ้น CBG ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ถูกรินขายแบบมาราธอน ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากธุรกิจในเขมรมีปัญหา “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเห็นใจมาก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น และเข้าใจว่า การที่หุ้นย่อตัวจากระดับ 61 บาท ลงมายืนปิดที่ระดับ 45.25 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 619 ล้านบาทในระยะเวลาเดือนครึ่ง พร้อมกับทำโลว์ในรอบหลายปี..คงไม่จบแค่นี้แน่ ๆ เจ้าค่ะ

เม้าท์ถึงหุ้นที่ทรุดตัวลงมาเรื่อย ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นน้ำมะพร้าว COCOCO เพื่อชี้ให้เห็นการยืนปิดที่ระดับ 7.45 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 49 ล้านบาท ทั้งที่รักษาระนาบหุ้นบริเวณ 8 บาทได้เป็นเดือนแบบนี้ อีฉันมองเป็นเรื่องที่น่ากังวลไม่ใช่เล่น เพราะสงครามราคาน้ำมะพร้าวยังแข่งกันอย่างดุเดือด แถมหุ้นก็ยังเทรดบน PE 29 เท่าเสียด้วย..อีฉันเสียวจริง ๆ นะจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น TFG ก็มีช็อตที่ทำให้คิดมากเช่นกัน หลังวานี้ถูกทิ้งตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 4.64 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 148 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน และน่าจะเกี่ยวข้องกับงบไตรมาส 2 ที่หลายคนมองว่า ราคาหมู ราคาไก่ ผ่านจุดพีกไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้กำไรไตรมาส 3 ไม่โตอย่างที่ประเมินไว้นะคะ

ส่วนรายที่มีแนวโน้มกำไรโต แต่ราคาหุ้นไม่อิน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นน้องใหม่อย่าง ATLAS แบบไม่ลังเลใจ เพราะเมื่อพิจาราณาจากข่าวลือที่แพรสะพัดไปทั่วห้องค้า แต่ไม่เป็นจริงเป็นเหมือนที่พูดกันปาว ๆ อีฉันเลยมองการเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.32 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452 ล้านบาท เหมาะสมทุกประการ และเมื่อดูการเทรดของหุ้นบน PE 12 เท่าเป็นที่ตั้ง หุ้นก็ควรกลับขึ้นไปยืนเหนือไอพีโอ 3 บาทเจ้าค่ะ

ปิดท้ายกันที่หุ้นสายการบินสีแดงอย่าง AAV เพื่อชี้ให้เห็นการพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.29 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 264 ล้านบาท ก็มาจากเรื่องกระตุ้นท่องเที่ยว กับแอร์เอเชียเอกซ์ต้องทำเทนเดอร์ฯ ซึ่งเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นขึ้นมาทดสอบไฮเดิมที่ระดับ 1.40 บาทอีกครั้ง ส่วนจะผ่านไปได้หรือไม่ คงต้องดูกันไปเรื่อย ๆ เพราะสองสามครั้งก่อนที่ขึ้นมาบริเวณดังกล่าวปุ๊บ ราคาหุ้นก็ไหลลงมากองแถว 1.20 บาททุกทีนะซี

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button