
ตั้งฐานขึ้นใหม่
การอ่อนตัวของดัชนีก่อนหน้านี้ที่ลงไปถึงบริเวณ 1,274 จุด อาจเป็นเรื่องที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกเซ็งเล็กน้อย แต่เมื่อดูภาพใหญ่จะเห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,302.35 จุด บวกไป 11.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท คือดัชนีกำลังพยายามตั้งฐานเพื่อทะยานขึ้นใหม่
การอ่อนตัวของดัชนีก่อนหน้านี้ที่ลงไปถึงบริเวณ 1,274 จุด อาจเป็นเรื่องที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกเซ็งเล็กน้อย แต่เมื่อดูภาพใหญ่จะเห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,302.35 จุด บวกไป 11.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท คือดัชนีกำลังพยายามตั้งฐานเพื่อทะยานขึ้นใหม่ โดยเที่ยวนี้มีเป้าหมายอยู่ที่การขึ้นไปยืนเหนือ 1,300 จุดอย่างมั่นคง ต่อจากนั้นจะวิ่งขึ้นไปหาเป้าหมายที่บริเวณ 1,350 จุดให้ได้ก่อนสิ้นปีนะจะบอกให้
เหล่านี้เป็นเรื่องนักลงทุนรับรู้กันมาแล้วพักใหญ่ ๆ และเป็นตัวกำหนดรูปแบบการเล่นจะเป็นเช่นไร “โมนิก้า” ถึงพยายามไล่เรียงไทม์ไลน์สำคัญของตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้จะมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นงบแบงก์ที่ออกมาดีเป็นส่วนใหญ่ ถัดจากนันจะเป็นงบของบริษัทต่าง ๆ และตามมาด้วยสภาพเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแรงในช่วง 2 เดือนสุดท้าย ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการคนละครึ่งพลัส และยังมีเรื่องเที่ยวดีมีคืนเข้ามาเสริมอีกทางหนึ่งด้วยนะจ๊ะ
ที่สำคัญคือเดือน พ.ย. กับ ธ.ค. เป็นช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มหลักอย่าง แบงก์ ไฟแนนซ์ อาหาร และท่องเที่ยว เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลดีโดยตรงเป็นกลุ่มแรกเมื่อเงินสะพัดอีกรอบ แถมยังมีเรื่องลดดอกเบี้ยเข้ามาช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนแบบนี้..ตลาดหุ้นก็ควรไปต่อไม่ใช่เหรอคะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้นน้องใหม่อย่าง ATLAS เพื่อชี้ให้เห็นการเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.58 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 949.26 ล้านบาท น่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมทุกประการ เพราะถ้าดูจากสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเป็นลำดับ ผสานกับมีจุดเด่นเป็น “Growth Stock” ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยเน้นสร้างรายได้จากธุรกิจ LPG และสื่อโฆษณา ราคาหุ้นควรขึ้นไปยืนเหนือ 3 บาทใช่ไหมจ๊ะ
เช่นเดียวกับหุ้น ONSENS ที่อ่อนตัวหลุดจอง 2.05 บาทลงมาลึก และลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 1.49 บาท ก่อนจะเริ่มตั้งฐานใหม่แบบนี้ “โมนิก้า” ก็มองเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับคนที่เน้นการลงทุนระยะยาว เพราะมื่อดูจากแผนขยายสาขาใหม่ 7 แห่ง และเปิดโครงการ “Wellness Hotel & Spa” ย่านทองหล่อในปี 70 อีฉันเลยเชื่อว่า ราคาหุ้นที่ระดับ 1.56 บาท มีความเสี่ยงในการลงทุนที่ต่ำมาก ๆ แล้วจ้า!
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น 88TH มีประเด็นให้น่าคิดเช่นกันว่า การยืนปิดที่ระดับ 5.70 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48.68 ล้านบาท เทียบกับราคาขายไอพีโอที่ระดับ 5.45 บาทมีความเสี่ยงสูงไหม? เพราะเมื่อดูจากแผนปั๊มรายได้ที่จะโต 30% ต่อเนื่องอีก 2 ปี พ่วงด้วยกับการเทรดของหุ้นอยู่บน PE 13 เท่า คุณ ๆ ท่าน ๆ คิดว่า หุ้นตัวนี้อยู่ในลิสต์น่าลงทุนหรือเปล่า?..ลองไปคิดกันดูนะออเจ้า
ส่วนคนที่รู้สึกสงสัยราคาหุ้น VGI จะลงไปต่ำสุดขนาดไหน? อีฉันขอตอบว่า ไม่รู้! เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้คือ การยืนปิดที่ระดับ 1.36 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 9.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99.24 ล้านบาท มันเป็นการเทรดบน PE 54 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินไปสำหรับหุ้นที่มีผลงานกำไรบ้าง..ขาดทุนบ้าง รวมทั้งยังมีเรื่องอีรุงตุงนังกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่แบบนี้..อีฉันไม่กล้าคิดบวกเลยพับผ่าซิ!
สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น BTG ขึ้นมาทันที หลังราคาหุ้นทรุดตัวต่อเนื่อง 6 วันแบบไม่มีวอลุ่ม ซึ่งอนุมานได้ว่า ผลงานไตรมาส 3 มีสิทธิ์ออกมาไม่ดี โดยเป็นผลมาจากราคาหมูราคาไก่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นถึงหลุดจุดเด้งที่บริเวณ 17 บาท ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 16.40 บาทแบบเหงา ๆ และกลายเป็นโจทย์ยากที่นักเล่นต้องกลับไปประเมินตัวเองว่า กล้าลุยไหม? พะยะค่ะ
โมนิก้าและทีมงาน