พาราสาวะถี

เป็นธรรมดาของรัฐบาลที่มีต้นทุนจากพลังหนุนที่ทำให้ทุกอำนาจของฝ่ายอนุรักษ์นิยมต่าง พร้อมใจอุ้มสม อนุทิน ชาญวีรกูล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี


เป็นธรรมดาของรัฐบาลที่มีต้นทุนจากพลังหนุนที่ทำให้ทุกอำนาจของฝ่ายอนุรักษ์นิยมต่าง พร้อมใจอุ้มสม อนุทิน ชาญวีรกูล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี อันหมายถึงนี่คือหน้าตาของ ฝ่ายกุมอำนาจรัฐคนดีย์ภาคต่อจากรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ ดังนั้น การที่ วรภัค ธันยาวงษ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อันเนื่องมาจากข่าวมีชื่อเป็น 1 ใน 7 นักการเมืองพัวพันแก๊งสแกมเมอร์เขมร  จึงเป็นการแสดงสปิริตเพื่อไม่ให้รัฐบาล 4 เดือนแปดเปื้อน

น่าสังเกตว่า หลังการประกาศไขก๊อก นอกจากเสี่ยหนูจะชื่นชมในการเสียสละของอดีตรัฐมนตรีรายนี้แล้ว ไม่ได้มีเสียงเรียกร้องหรือความเคลื่อนไหวใดในการที่จะตรวจสอบหรือ ถามหาความรับผิดชอบจากนายกฯ ในฐานะผู้แต่งตั้งรัฐมนตรี ทั้งที่มีการคุมเข้มเรื่องคุณสมบัติกันมาแล้ว เชื่อได้ว่าคำตอบที่จะได้รับคือ กรณีแบบนี้ใครจะไปตรัสรู้ได้ว่าเคยมีประวัติด่างพร้อย หรือพัวพันกับใครมาบ้าง จึงไม่ใช่เรื่องที่คนเป็นผู้นำจะต้องแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด

ในทางตรงข้าม หากเป็นรัฐบาลที่นำโดยเพื่อไทยเรื่องแบบนี้คงหนีไม่พ้นที่จะถูกยื่นให้เอาผิดในประเด็นมาตรฐานทาง จริยธรรม เหมือนที่ เศรษฐา ทวีสิน และ แพทองธาร ชินวัตร ถูกตัดสินมาแล้ว และเป็นผลให้ท้ายที่สุด ลูกสาวสุดที่รักของ ทักษิณ ชินวัตร จำเป็นต้องถอนสมอจากความเป็นผู้นำพรรค ไปยืนอยู่เบื้องหลัง เพราะเกรงว่าจะถูกนำกรณีนี้ไปขยายผลในช่วงเลือกตั้ง จะเห็นได้ว่ากลไกที่ขบวนการอยู่ยาววางหมากไว้นั้น ส่งผลต่อฝ่ายตรงข้ามอนุรักษ์นิยมทุกทาง เนื่องจากความผิดที่ถูกเล่นงานมันสามารถตีความได้อย่างกว้างขวาง อยู่ที่ว่าใครเป็นผู้ถูกร้อง

การลาออกของวรภัคหลังจากนี้ก็จะเงียบหายไปกับสายลม เพราะมีปมการเตรียม ลงนามประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในห้วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคมนี้ ระหว่างอนุทิน กับ ฮุน มาเนต นายกฯ เขมร ตามคำขู่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการจะมานั่งเป็นประธานในพิธีดังกล่าว เพื่อสร้างภาพความเป็นผู้นำสันติภาพให้กับชาวโลก

จากที่ฝ่ายความมั่นคง รวมไปถึงเสี่ยหนูแสดงท่าทีแข็งกร้าว หากกัมพูชาไม่ยอมปฏิบัติตาม 4 เงื่อนไขที่ไทยได้ร้องขอและตกลงร่วมกันเมื่อคราวประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไทยหรือจีบีซีที่เกาะกง เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็จะไม่เกิดการลงนามดังกล่าวขึ้น ซึ่งผลการประชุมจีบีซีที่ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บินไปร่วมวงถกร่วมกับทางเขมร ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวานนี้ (23 ตุลาคม) โดยมีกระทรวงกลาโหมมาเลเซียเป็นผู้ประสานนั้น บทสรุปก็เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น

ท่าทีของเขมรเป็นภาคบังคับที่ต้องยอมรับตามเงื่อนไข ด้วยการลงลึกในรายละเอียดต่อข้อปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 4 ประการของฝ่ายไทย จนทำให้ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมั่นใจว่า การลงนามในประกาศสันติภาพของสองประเทศจะเกิดขึ้นแน่นอน พร้อมกับย้ำว่า ไม่ใช่เป็นเพียงพิธีกรรม แต่จะมีแผนดำเนินการแนบ ว่า หลังจากนี้จะต้องมีการถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมถึงการปราบปรามปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยแผนและกรอบเวลาต้องชัดเจน

เงื่อนไขที่ว่าด้วยการถอนอาวุธหนักนั้น พอจะคาดหวังได้ว่าเขมรจะไม่บิดพลิ้วเพราะทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงานหรือทีโออาร์ สำหรับ คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ IOT และได้มีการลงนามโดยผู้แทนทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะ IOT จะมีหน้าที่สำคัญในการสังเกตและติดตามผลความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงได้มีการกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายปลายทางในการถอนอาวุธเป็นที่เรียบร้อย

ขณะที่การเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้จะมีการจัดทำ ระเบียบปฏิบัติตามมาตรฐานหรือเอสโอพี สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทั้งในพื้นที่ที่มีการกำหนดเขตแดนชัดเจน และพื้นที่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน หลังจากนี้ชุดประสานงานของทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยไม่สามารถดำเนินการหรือเก็บกู้ได้เต็มที่ เนื่องจากถูกขัดขวางจากฝ่ายเขมรบ่อยครั้ง ครั้งนี้ฝ่ายกัมพูชายอมที่จะนำประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาพูดคุยในรายละเอียดกันอย่างจริงจัง ซึ่งยังต้องรอดูว่าเมื่อถึงขั้นตอนปฏิบัติจริงๆ แล้ว ยังจะมีลูกเล่นตุกติกอะไรหรือไม่

เช่นเดียวกับเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ วงเจรจาสรุปว่าหน่วยงานตำรวจของทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการหรือแอ็คชั่นแพลนเรียบร้อย และ จะจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจร่วมภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเริ่มกวาดล้างแกนนำหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการไซเบอร์สแกม กรณีนี้น่าเป็นห่วง เนื่องจาก พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เพิ่งให้ข้อมูลตำรวจไทยได้เดินทางไปถึงเขมรเพื่อจะดำเนินการกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พวกสแกมเมอร์มาแล้ว แต่ถูกฝ่ายกัมพูชาหลอกให้รอกว่า 1 เดือนแล้วก่อนจะไล่ให้กลับบ้านมือเปล่า ทั้งที่ไปถึงที่ตั้งและมีรายชื่อคนถูกออกหมายจับแล้วกว่า 160 คน

เข้าใจได้ กระบวนการทางการทูตมันไม่มีทางเลือก แม้จะรู้ทั้งรู้อีกฝ่ายไว้ใจไม่ได้ ต้องไปวัดกันเอาเมื่อการลงนามได้เสร็จสิ้นแล้ว เหมือนกับปมบ้านหนองจานกับบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ที่ประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซีมีบทสรุป ทั้งสองฝ่ายจะลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน พฤติกรรมที่ผ่านมามันเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มในอนาคต โอกาสจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งนั้นยากเหลือเกิน ด้วยเหตุผล อีกฝ่ายไว้ใจไม่ได้ และ ไม่มีความจริงใจตั้งแต่ต้น

อรชุน

Back to top button