CGSI คงน้ำหนักลงทุน “หุ้นพลังงาน” ชี้ค่าการกลั่นไทย Q4 แข็งแกร่ง

CGSI ประเมินค่าการกลั่นของโรงกลั่นไทยในไตรมาส 4/68 ยังทรงตัวระดับ 6–7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้แรงหนุนจาก crack spread น้ำมันดีเซลที่แข็งแกร่ง แม้ค่าการกลั่นสิงคโปร์ลดลงหลังปรับสูตรคำนวณใหม่


ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า แม้ค่าการกลั่นในตลาดสิงคโปร์จะอ่อนตัว แต่คาดว่าค่าการกลั่นของโรงกลั่นไทยในไตรมาส 4 ปี 2568 จะยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจาก crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม หลังแตะระดับสูงสุดของปีที่ 23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในเดือนตุลาคม 2568

ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญมาจากการหยุดการผลิตของโรงกลั่นในรัสเซียจากเหตุโจมตีด้วยโดรน ทำให้กำลังการผลิตลดลงสูงสุดถึง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดีเซลหายไปจากตลาดราว 300,000 บาร์เรลต่อวัน และทำให้คลังสำรองน้ำมันดีเซลในศูนย์กลางการค้า Amsterdam-Rotterdam-Antwerp (ARA) ลดต่ำลง ขณะเดียวกัน โรงกลั่น BP Rotterdam และโรงกลั่นในตะวันออกกลางต่างทยอยปิดซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 รวมถึง 880,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 340,000 บาร์เรลต่อวันในไตรมาสก่อนหน้า ตามข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน Kpler

อย่างไรก็ตาม แม้กำลังการผลิตของโรงกลั่นรัสเซียจะทยอยกลับมาในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน แต่ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในช่วงฤดูหนาวยังคงสูง ส่งผลให้ crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง

โดยในส่วนของน้ำมันเบนซิน crack spread ในเอเชียปรับขึ้นจาก 11.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกันยายนเป็น 14.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนตุลาคม เนื่องจากโรงกลั่น BP Whiting และหลายแห่งในยุโรปปิดซ่อมบำรุง รวมถึงหน่วย FCC ของโรงกลั่น Dangote ในไนจีเรียที่ยังไม่กลับมาเดินเครื่อง ส่งผลให้การส่งออกเบนซินจำกัด อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม crack spread ของเบนซินอาจอ่อนตัวลงตามฤดูกาล

สำหรับค่าการกลั่นสิงคโปร์ (Singapore GRM: S-GRM) แม้ crack spread ของ middle distillate จะยังแข็งแกร่ง แต่ค่าการกลั่นเฉลี่ยกลับอยู่เพียง 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนตุลาคม เนื่องจากสำนักข่าว Reuters ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักของน้ำมันเตาในการคำนวณจาก 23% เป็น 32% ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา อีกทั้งการคำนวณต้นทุนน้ำมันดิบยังอิงราคาย้อนหลังเฉลี่ย 11 วัน ต่างจากสูตรเดิมที่ใช้ราคาตลาด spot ซึ่งหากใช้สูตรเดิม ค่าการกลั่นสิงคโปร์อาจอยู่ที่ระดับ 7.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

CGSI ประเมินว่าโรงกลั่นไทยยังคงมีค่าการกลั่นในระดับ 6–7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 4 โดย BCP จะได้รับอานิสงส์จาก crack spread น้ำมันดีเซลและน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่แข็งแกร่ง ส่วน TOP จะได้รับผลกระทบจากค่าขนส่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากทุ่นจอดเรือกลางทะเล (SBM) ยังไม่เปิดใช้งาน ขณะที่ SPRC อาจได้รับผลกระทบจากค่าซ่อมบำรุง และ PTTGC จะหยุดการผลิต 50 วันในช่วงตุลาคมถึงพฤศจิกายน

ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral)” ในกลุ่มโรงกลั่นไทย โดยมองว่าการซ่อมบำรุงของโรงกลั่นหลายแห่งทั่วโลกจะช่วยหนุนค่าการกลั่นในระยะสั้น ขณะเดียวกันยังมีโอกาสเกิด upside หากโรงกลั่นทั่วโลกหยุดการผลิตมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงด้าน downside ยังคงมาจากต้นทุนน้ำมันดิบตะวันออกกลางที่อาจสูงกว่าประมาณการ

Back to top button