
SCGP ทุ่ม 956 ล้านบาท เทคโอเวอร์ MYPAK อินโดฯ เสริมพอร์ตแพคเกจจิ้งอาเซียน
SCGP เข้าซื้อกิจการ MYPAK ผู้ผลิตกล่องลูกฟูกชั้นนำในอินโดนีเซีย สัดส่วน 100% มูลค่ากิจการไม่เกิน 956 ล้านบาท หวังเสริมพอร์ตบรรจุภัณฑ์-สินค้าอุปโภคบริโภคอาเซียน คาดปิดดีลในไตรมาส 4/68
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน หรือ SCGP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า SCGP ได้ลงนามในสัญญา ซื้อหุ้นแบบมีเงื่อนไขเพื่อเข้าถือหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 100 ใน PT Prokemas Adhikari Kreasi (หรือ MYPAK) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีมูลค่ากิจการรวมไม่เกิน 455 พันล้านรูเปียห์หรือประมาณ 956 ล้านบาท
โดยจะเป็นการเข้าถือหุ้นเมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นโดย 2 บริษัทใน SCGP ได้แก่ 1) TCG Solutions Pte. Ltd. (หรือ TCGS) บริษัทย่อยที่บริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด (หรือ TCG) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SCGP และ Rengo Company Limited ประเทศญี่ปุ่นที่สัดส่วนร้อยละ 70:30 ตามลำดับ ถือหุ้นทั้งหมด และ 2) บริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด (หรือ SKIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด โดย TCGS และ SKIC จะถือหุ้นใน MYPAK ในอัตราส่วน 60:40 ตามลำดับ
โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการเข้าซื้อกิจการ รวมทั้งการดำเนินการ ตามเงื่อนไขบังคับก่อนการโอนหุ้น ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4 ของปี 2568 โดย SCGP จะเปิดเผย รายละเอียดของธุรกรรมตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับ MYPAK เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีฐานลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นบริษัทข้ามชาติและแบรนด์สินค้าชั้นนำในตลาดอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ อินโดนีเซีย ในปี 2567 MYPAK มีรายได้ 846 พันล้านรูเปียห์(ประมาณ 1,777 ล้านบาท) และทรัพย์สิน 1,272 พันล้านรูเปียห์(ประมาณ 2,670 ล้านบาท) โดยมีกำลังการผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกคุณภาพสูงอยู่ที่ 144,000 ตัน ต่อปี ฐานการผลิตของ MYPAK ตั้งอยู่ที่เมือง Bekasi ทางตะวันตกของเกาะชวา ซึ่งใกล้กับฐานการผลิตกระดาษ บรรจุภัณฑ์ของ PT Fajar Surya Wisesa Tbk. (หรือ Fajar) และโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษอื่น ๆ ของ SCGP โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคใน ภูมิภาคอาเซียนของ SCGP โดยการขยายกลุ่มสินค้าจำพวกอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึง การเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (Cross-selling) โดยอาศัยฐานลูกค้านานาชาติ และลูกค้าท้องถิ่นที่แข็งแกร่งของ MYPAK
ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีและศักยภาพในการผลิตของ MYPAK จะช่วยผลักดันการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ของ MYPAK ยังเป็นประโยชน์ด้าน Synergy แก่ธุรกิจอื่น ๆ ในปัจจุบันของ SCGP ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย การผลิตและการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานให้เชื่อมโยงกัน ซึ่งจะช่วยให้ SCGP มีความสามารถในการแข่งขันใน ตลาดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่ม สูงขึ้นของประเทศอินโดนีเซีย
SCGP มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความนิยมใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย นำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ บรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูง ตลอดจน การให้บริการที่โดดเด่นอื่น ๆ ปัจจุบัน SCGP มีฐานการดำเนินงานรวมกว่า 50 แห่งในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สหราชอาณาจักร สเปน เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา โดย SCGP เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 2.4 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ* (ประมาณ 78,100 ล้านบาท) สำหรับรายละเอียดข้อมูลบริษัทเพิ่มเติม มีปรากฏอยู่บน เว็บไซต์ www.SCGPackaging.com
ทั้งนี้โครงการลงทุนเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งบริษัทย่อยที่ยังอยู่ระหว่างการเข้าทำรายการ จึงยังไม่ สามารถคำนวณขนาดของรายการตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือ จำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ได้อย่างชัดเจน แต่จากการประมาณการในเบื้องต้น ธุรกรรมนี้เมื่อรวมกับรายการได้มา ซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้ เมื่อเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์รวม ตามงบการเงินรวมของ SCGP สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยังน้อยกว่าร้อยละ 15 ของสินทรัพย์รวม และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน
