
“พิพัฒน์” เปิดงานขนส่งทางอากาศ ชูแผนพัฒนา “โดรนเดลิเวอรี่” เชิงพาณิชย์
“พิพัฒน์-ไชยชนก” เปิดงาน “การขนส่งทางอากาศยุคใหม่ด้วยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน" ดันไทยสู่ยุค Smart Mobility อย่างเต็มรูปแบบ
ผู้สื่อข่าวรายงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมเป็นประธานเปิดงาน “การขนส่งทางอากาศยุคใหม่ด้วยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (The New Era of Drone Delivery)” เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมขนส่งทางอากาศด้วยโดรนในเชิงพาณิชย์
โดยมี พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ CAAT, พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT พร้อมด้วยผู้บริหารภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ณ ห้อง Auditorium อาคาร 9 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนระบบขนส่งทางอากาศให้ก้าวทันยุคดิจิทัล “อากาศยานไร้นักบินหรือโดรน ได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งพัสดุ เวชภัณฑ์ และสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ระบบขนส่งทางบกเข้าถึงยาก” พร้อมย้ำว่า การพัฒนาเทคโนโลยีต้องดำเนินควบคู่กับกฎระเบียบที่ชัดเจนและทันสมัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและเศรษฐกิจประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านความปลอดภัย (Safety and Security) โดยมอบหมายให้ CAAT ทำงานร่วมกับภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน พัฒนากฎระเบียบที่รัดกุมก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในพื้นที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการนำโดรนไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การลักลอบขนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมย้ำว่าเทคโนโลยีโดรนจะเป็นนิมิตหมายใหม่ของระบบขนส่งอัจฉริยะ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ลดต้นทุนภาคธุรกิจ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบที่ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า เทคโนโลยีโดรนคือนิมิตหมายใหม่ของระบบขนส่งและโลจิสติกส์ในอนาคต ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ลดต้นทุนภาคธุรกิจ และเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ระบบขนส่งอัจฉริยะ โดรนคือเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่เราต้องมีกรอบกติกาที่ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและประชาชนอย่างแท้จริง
นายไชยชนก กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนถึงการบูรณาการระหว่างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและด้านคมนาคม เพื่อให้ประเทศไทยพร้อมเข้าสู่ยุค “Smart Mobility” อย่างเต็มรูปแบบ โดย NT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงดีอีเอส ได้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการจราจรทางอากาศสำหรับอากาศยานไร้นักบิน (UTM) และโครงข่ายสื่อสารบนคลื่น 700 MHz เพื่อใช้ติดตามและควบคุมเที่ยวบินโดรนแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบ Remote ID เพื่อให้การบินทุกลำสามารถตรวจสอบได้อย่างปลอดภัยและมีมาตรฐานเดียวกัน
พันเอก สรรพชัยย์ กล่าวเสริมว่า NT มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติในการพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการอากาศยานไร้นักบิน พร้อมให้บริการซิม “my by NT” บนคลื่น 700 MHz สำหรับติดตามเที่ยวบินโดรนอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย
ด้าน พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า CAAT มีบทบาทกำกับดูแลด้านความปลอดภัยทางการบินและการพัฒนาเทคโนโลยีการบินสมัยใหม่ โดยกำลังผลักดันแนวทางกำกับดูแลอากาศยานขั้นสูงในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมเตรียมจัดประชุมนานาชาติ Advanced Air Mobility Symposium (AAM 2026) ในประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการขนส่งทางอากาศยุคใหม่ เช่น โดรนขนส่งสินค้า ระบบแท็กซี่บินไฟฟ้า (eVTOLs) และการบริหารจราจรทางอากาศในเมือง (Urban Air Mobility – UAM)

