
โบรกชู 8 หุ้นท็อปพิก! วิ่งรับข่าว “ทรัมป์-สี จิ้นผิง” เจรจาปิดดีลภาษีการค้า
โบรกชี้กลุ่ม China Plays วิ่งรับข่าว “ทรัมป์-สี จิ้นผิง” เดินหน้าเจรจาภาษีการค้า หนุนเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ พร้อมคัดหุ้นเด่นรับอานิสงส์ TOP, PTTGC, KCE, WHA, AMATA, IVL, SCC, SCGP
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ณ ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการพบปะระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นอกรอบการประชุม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) เอเปค ซึ่งเป็นการหารือครั้งตัวต่อตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 หรือราว 6 ปีก่อน เพื่อยุติความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้ ภายหลังการหารือราว 1 ชั่วโมง ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อบนเครื่องบินขณะออกจากเกาหลีใต้ ระบุผลการหารือสำคัญ ดังนี้ 1.)ขยายระยะเวลาข้อตกลงสงบศึกการค้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขึ้นภาษีตอบโต้ซึ่งเดิมมีกำหนดหมดอายุวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 และเห็นพ้องกันในกรอบการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในอนาคต
2.) ลดภาษีเฟนทานิลจาก 20% เหลือ 10% หรือคิดเป็นการลดลงครึ่งหนึ่ง, 3.) ยกเลิกอุปสรรคใดๆ จากจีนในการส่งออก แร่หายาก (Rare Earth) โดยแลกกับที่สหรัฐฯ จะยกเลิกข้อจำกัดต่อบริษัทจีนบางส่วน
4.) จีนเริ่มกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐทันที รวมถึงข้าวฟ่างและสินค้าเกษตรอื่นๆ ในปริมาณมหาศาลตามที่ทรัมป์ระบุ และ 5.) ความร่วมมือในสงครามยูเครน การเยือนระหว่างผู้นำ โดยทรัมป์จะเดินทางไปเยือนจีนในเดือนเมษายน 2569 และสี จิ้นผิงจะเยือนสหรัฐฯ หลังจากนั้น
จากข่าวดังกล่าว สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ระบุวันนี้ทรัมป์มีกำหนดพบกับ สี จิ้นผิงเพื่อหารือและยุติความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ ถึงข้อตกลงการค้าจะครอบคลุมการควบคุมการส่งออก, การระงับภาษี, มาตรการเกี่ยวกับ FENTANYL และค่าธรรมเนียมสินค้าจีนไปสหรัฐฯ เป็นต้น
สำหรับรายละเอียดสหรัฐฯจะยกเว้นภาษี 100% สำหรับสินค้าจีน ส่วนจีนจะสั่งซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ อีกทั้ง คาดการณ์จีนว่าจะเลื่อนการบังคับใช้มาตรการส่งออกแร่ แร่หายากออกไปประมาณ 1 ปี รวมถึงข้อตกลงอื่นๆ อยู่ในรูปประกอบด้านล่าง ทั้งนี้ กลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่คาดการณ์รับกระแสหวังอัตราภาษีลดลง คือ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA และ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เป็นต้น

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุผ่านบทวิเคราะห์ข่าวเช้าวันนี้ 30 ต.ค. ประธานาธิบดีจีน-สหรัฐจะเริ่มเจรจาอย่างเป็นทางการ ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกมอง “Soft Tone” จากทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะประเด็น Rare Earth ที่จีนถือไพ่เหนือกว่า สำหรับกลยุทธ์ลงทุแนะนำกลุ่ม China Plays ได้อานิสงส์จากการเจรจาสหรัฐ–จีน อาทิ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, PTTGC และบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE เป็นต้น
ขณะที่ ก่อนหน้านั้น บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX ได้ออกมาให้ความเห็นว่าสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกําไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและข่าวทรัมป์และสีจิ้นผิงหารือการค้าที่มีโอกาสบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนํา คือ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC และ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เป็นต้น
อีกทั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST เปิดเผยว่า สำนักข่าวซินหัว ออกมาเผยว่าผู้นำจีนยืนยันการหารือกับผู้นำสหรัฐจะเกิดขึ้นในวันนี้ตามกาหนดการที่ตั้งไว้ โดยจะหารือครอบคลุมทั้งประเด็นทวิภาคี และประเด็นสำคัญอื่นๆ ในระดับโลกที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ซึ่งคาดการณ์จะมุ่งเน้นลดความกดดันระหว่างกัน มองจะเข้ามาช่วยสร้างแรงหนุนให้หุ้นกลุ่ม China Play เนื่องจากเริ่มมี Positive Sign
 
				
