
พาราสาวะถี
เป็นมือใหม่หัดขับในแวดวงหลังบ้านนักการเมือง โดยสามีดันได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแม้จะมีการวางแผนเตรียมการกันไว้อย่างดี
เป็นมือใหม่หัดขับในแวดวงหลังบ้านนักการเมือง โดยสามีดันได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแม้จะมีการวางแผนเตรียมการกันไว้อย่างดี แต่ถือว่าไม่ได้อยู่ในฐานะซึ่งคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ในช่วงเวลานี้ นั่นจึงทำให้ ธนนนท์ นิรามิษ ภริยาของ อนุทิน ชาญวีรกูล ไปหยอกล้อกับนักข่าวจนถูกมองว่าเป็นการคุกคามหรือไม่ กระทั่งได้มีการโพสต์ขอโทษตามมา คงไม่ว่ากันประสาคนเดียงสาในเรื่องนี้ ไม่เคยได้คลุกคลีกับแวดวงมาอย่างยาวนาน จึงรู้สึกเป็นห่วง ต้องการปกป้องสามีเป็นธรรมดา ดังนั้น จึงแนะนำว่า ควรไปศึกษาบรรดาหลังบ้านอดีตผู้นำทั้งหลาย เขาวางตัวในฐานะสตรีหมายเลข 1 กันยังไง
มากไปกว่านั้น เสี่ยหนูคงลืมบอกภรรยาไปว่า ไม่ต้องห่วงพี่ ผ่านศึกเหนือเสือใต้มาหมดแล้ว อุตส่าห์บอกกับนักข่าวไปว่า เท่าที่จำความได้ไม่เคยเสียเปรียบใคร แล้วจะให้เมียมาออกหน้าปกป้องมันทำให้เสียเชิงชาย เสียชื่อนักการเมืองเขี้ยวลากดินกันไปฉิบ เข้าใจได้ประสาคนรักภรรยา ไปไหนก็หอบหิ้วไปด้วยเพื่อแสดงออกถึงความเป็นแฟมิลี่แมน ถ้าไม่มีเวลาที่จะแนะนำ ก็ต้องให้ทีมงานคอยบอกกล่าว ตักเตือน อย่าปากไว หรือแสดงออกว่าสามีข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ใครแตะไม่ได้ จะสะดุดขาตัวเองล้มตึงเอาง่าย ๆ
ประเด็นการลงนามข้อตกลงร่วมกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าด้วย แร่หายากหรือแรร์เอิร์ธ ยังถูกจับตามอง นั่นเป็นเพราะไม่มีใครระแคะระคายเรื่องนี้มาก่อน ทั้งที่เป็นปมสำคัญ รัฐบาลควรสื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้ พอมาเป็นข่าวตูมเดียว ไม่ว่าจะอธิบายกันอย่างไร คนส่วนใหญ่ก็เชื่อไปแล้วว่า การมุบมิบทำกันแบบนี้ น่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล ยิ่งฟังคำอธิบายของรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล เหมือนจะโปร่งใสแต่มันไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
กล่าวคือ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อ้างว่า บันทึกความเข้าใจนี้ เป็นเรื่องใหม่ที่ทางสหรัฐอเมริกาขอให้ไทยร่วมลงนาม และกระทรวงการต่างประเทศได้ดูอย่างรอบคอบ นำเข้าคณะรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนทำการลงนามแล้ว ขณะที่ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ครม.ได้รับทราบก่อนแล้วในการประชุมนัดพิเศษเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่มาเลเซีย
แต่เมื่อไปตรวจสอบจากสรุปการประชุมครม.ในวันที่มีการกล่าวอ้าง และย้อนหลังไปถึงการประชุมครม.วันที่ 21 ตุลาคม และ 28 ตุลาคม ไม่พบว่ามีประเด็นเรื่องบันทึกความเข้าใจระหว่างสหรัฐฯ และไทยในกรณีดังกล่าว กรณีเช่นนี้มันยิ่งทำให้เกิดความเคลือบแคลง มากไปกว่านั้นที่เป็นกังวลกัน การลงนามกับสหรัฐฯ เช่นนี้ จะทำให้จีนที่ใช้เรื่องแรร์เอิร์ธเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการต่อรองปัญหาสงครามการค้ากับอเมริกา ไม่สบายใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลไทยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอาจจะอ้างได้ว่า การลงนามในข้อตกลงดังว่า ไทยไม่ได้ทำกับสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว เพราะก่อนหน้าทั้งมาเลเซีย และญี่ปุ่นก็ได้ทำข้อตกลงในลักษณะเดียวกัน ที่สำคัญคือผลจากการลงนามของทั้งสามประเทศ ระบุชัดว่า ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แตกต่างกันที่ข้อความที่ปรากฏในเอกสารการลงนาม โดยไทยและมาเลเซียระบุว่า ความร่วมมือจะขึ้นอยู่กับความพร้อมด้านเงินทุน และไม่ได้แสดงถึงข้อผูกพันในการจัดสรรงบประมาณโดยตรง ขณะที่ญี่ปุ่นระบุว่า ไม่ก่อให้เกิดสิทธิหรือข้อผูกพันตามกฎหมายใด ๆ
ความเหมือนและข้อแตกต่างในเอกสารลงนามของทั้งสามประเทศนั้น ทางบีบีซีไทยได้รวบรวมไว้อย่างน่าสนใจ ประเด็นที่อาจเป็นประโยชน์ในแง่การชี้แจงของรัฐบาลเพื่อให้คนไทยรู้สึกดี และเห็นว่าไม่ได้ดำเนินการไปโดยยกผลประโยชน์เรื่องแรร์เอิร์ธให้กับสหรัฐฯ น่าจะเป็นการ กำหนดกลไกการประชุมและช่องทางการยุติความร่วมมืออย่างชัดเจน โดยเปิดโอกาสให้ประเทศร่วมโครงการสามารถยุติความร่วมมือได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเอกสารที่อนุทินได้ลงนามนั้น ระบุว่า คู่ร่วมโครงการฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถยุติความร่วมมือได้ตลอดเวลา โดยต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางทางการทูต หรือ diplomatic note
ที่น่าสังเกตสำหรับข้อตกลงของทั้งสามประเทศนั้น ญี่ปุ่นเจาะจงพูดถึงแร่และผลิตภัณฑ์บางชนิด ซึ่งไทยและมาเลเซียไม่ได้เอ่ยถึง เอกสารทั้งสามกล่าวถึงวัสดุใจกลางของความร่วมมือโดยกว้างว่า แร่ธาตุสำคัญ และแร่หายาก มีเพียงเอกสารของญี่ปุ่นฉบับเดียวที่มีการชี้ชัดว่า แร่หายากที่กล่าวถึง เป็นแร่หายากชนิดหนัก หรือ Heavy rare earth และชนิดเบา Light rare earth โดยเจาะจงในส่วนบทนำของกรอบความตกลง และไม่ได้กล่าวถึงแร่หายากชนิดกลาง หรือ Medium rare earth
โดยที่บางส่วนของข้อตกลงยังขยายขอบเขตกล่าวไปถึงผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง เช่น แม่เหล็กถาวร แบตเตอรี่ ตัวเร่งปฏิกิริยา และวัสดุออปติคัล โดยที่เอกสารของทั้งไทยและมาเลเซียไม่ได้มีการเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด แม้ว่ารัฐบาลจะสามารถอธิบายกับประชาชนให้ยอมรับได้ต่อการตัดสินใจครั้งนี้ ก็ต้องรอดูปฏิกิริยาจากรัฐบาลจีนต่อการดำเนินการครั้งนี้ว่าเป็นอย่างไร ถ้ามองว่านี่การท้าทายอำนาจการผูกขาดของจีน ก็อาจเสี่ยงที่จะต้องเผชิญแรงกดดันจากจีน ด้วยเช่นกัน
พรรคเพื่อไทยเลือก จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ เป็นผู้นำตามคาด พร้อมการคัมแบ็กมานั่งเป็นเลขาธิการพรรคของ ประเสริฐ จันทรรวงทอง อีกคำรบ โฉมหน้าของกรรมการบริหารพรรคไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ว่าจะขยับเขย่ากันอย่างไร ปัจจัยสำคัญคือ ทั้งหมดยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของคนตระกูลชินวัตร ซึ่งทำให้สมาชิกและ สส.ของพรรคยังอุ่นใจ และเลือกที่จะไปต่อ ที่บรรดากองเชียร์อยากเห็นคงเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คน บวกกับนโยบายขายฝันมากกว่า เพราะ 2 ปีที่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลมองกันว่าจะน่าเสียมากกว่าได้
อรชุน