
“แบงก์–ไฟแนนซ์” เฮ! รับอานิสงส์ ธปท. ร่วมทุน AMC บริหารหนี้เสีย
โบรกมอง ธปท.เปิดทางสถาบันการเงินตั้ง JV กับ AMC รับมือ NPL เพิ่มความยืดหยุ่นระบบการเงิน มีมุมมองบวกต่อกลุ่มแบงก์-ไฟแนนซ์ รับอานิสงส์ โดย KBANK-KTB เด่นสุด ส่วน MTC–KTC รับแรงหนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นางรุ่งมัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท. ได้ออกหลักเกณฑ์ส่งเสริมการจัดตั้งกิจการร่วมทุนระหว่างสถาบันการเงิน (ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจ) และบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด 19 โดยสิ้นสุดระยะเวลาการจัดตั้งเมื่อปี 2567 นั้น
เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของรายได้ธุรกิจและครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่อาจมีผลกระทบต่อเนื่องไปถึงคุณภาพสินเชื่อ สถาบันการเงินจึงมีความจาเป็นที่จะต้องมีกลไกที่ยืดหยุ่นขึ้นเพื่อรองรับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่อาจทยอยเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป
ด้าน ธปท. จึงจะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และ Non-bank สามารถร่วมลงทุนกับบริษัทบริหารสินทรัพย์หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารสินทรัพย์ในกิจการร่วมทุนได้เป็นการชั่วคราว กล่าวคือ ให้ระยะเวลา 2 ปีในการยื่นขอจัดตั้งกิจการร่วมทุน และมีระยะเวลา 15 ปีในการดาเนินกิจการ โดยกิจการร่วมทุนต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่ได้รับโอนมาด้วย เช่น ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยคานึงถึงประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับและสอดคล้องกับความสามารถในการชาระหนี้ รวมถึงจะขยายให้กิจการร่วมทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่จัดตั้งแล้วสามารถรองรับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากธนาคารพาณิชย์และ Non-bank ได้จากเดิมที่รับซื้อรับโอนได้จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจเท่านั้น
สอดคล้องกับฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็น slightly positive ต่อกลุ่ม Bank และ Consumer Finance ข่าว ธปท. ส่งเสริมจัดตั้งกิจการร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ของ ธนาคารพาณิชย์ และ Non-bank กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้เป็นการชั่วคราว เพราะบริษัทบริหารสินทรัพย์มีประสบการณ์ด้านบริหารหนี้เสีย และติดตามหนี้
ดังนั้นคาดว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภายในการติดตามหนี้ และเพิ่มทางเลือกให้สถาบันการเงินในการจัดการกับ NPL นอกจากนั้นการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ทำให้สถาบันการเงินมีส่วนแบ่งจากการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุน โดยการจัดตั้งกิจการร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ครั้งนี้ ทาง ธปท. ให้เวลา 2 ปี ในการยื่นขอจัดตั้งกิจการร่วมทุน และให้เวลา 15 ปี ในการดำเนินกิจการ
เมื่อครั้งก่อน (ปี 2565) ที่ธปท. มีการจัดตั้งกิจการร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ KBANK เป็นธนาคารเดียวที่มีการจัดตั้งกิจการร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ ได้แก่
1.JK AMC (ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กับ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT) กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 927 ล้านบาท และกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 288 ล้านบาท
2. ARUN AMC (KBANK กับ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM) กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 21 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยคงน้ำหนักการลงทุนเป็น NEUTRAL สำหรับกลุ่มธนาคาร และคง KBANK โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท เป็น Top Pick
ดังนั้น คงน้ำหนักการลงทุนเป็น BULLISH สำหรับกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ และคง บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 58 บาท และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 42 บาท เป็น Top Pick