“กรุงศรี” มอง SET สัปดาห์นี้ไซด์เวย์อัพ จับตาชัตดาวน์สหรัฐ-เศรษฐกิจจีน-งบบจ.ไทย

“บล.กรุงศรี” มอง SET สัปดาห์นี้ไซด์เวย์อัพ จับตาความคืบหน้าแก้ปัญหา Shutdown สหรัฐฯ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนตุลาคม และผลประกอบการไตรมาส 3/68 บจ.ไทย แนะ 3 หุ้นเด่น MTC-KTB-GULF รับดอกเบี้ยขาลง


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้(10-14 พ.ย.68)หน้ามีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ “Sideways/Up” มีแนวโน้มอยู่ในระดับ “เป็นกลางถึงบวก” โดยให้แนวต้านที่ระดับ 1,317-1,331 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,274-1,289 จุด หลังความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างประเทศเริ่มคลายตัว ประกอบกับความคืบหน้าในการหารืองบประมาณของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มบรรลุข้อตกลง และอาจกลับมาเปิดหน่วยงานของภาครัฐได้ตามปกติ

ขณะเดียวกัน ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อกระแสเงินทุนในตลาดทุนโลก ด้านปัจจัยในประเทศ มีการปรับเพิ่มประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทย

รวมถึงการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ช่วยหนุนให้ทิศทางดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในช่วงขาลง และส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในต่างประเทศ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือนตุลาคม และข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้นำต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกในระยะสั้น ส่วนในประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมออกมาตรการแก้หนี้ และจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อรับซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่อระบบการเงิน และกระตุ้นสภาพคล่องในตลาด

กลุ่มหุ้นนำตลาดสัปดาห์นี้คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง (Rate Cut Cycle) โดยเฉพาะกลุ่มการเงินที่เกี่ยวข้องกับมาตรการแก้หนี้ และกลุ่มบริษัทที่มีภาระหนี้สูง รวมถึงกลุ่ม Deep Value อย่างกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว หุ้นเด่นประจำสัปดาห์ ได้แก่

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC หนึ่งในหุ้นที่ได้รับอานิสงส์สูงจากมาตรการแก้หนี้และการจัดตั้ง AMC เพื่อรับซื้อหนี้เสีย (NPLs) รวมถึงได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง โดยให้ราคาเป้าหมาย 58 บาท

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการแก้หนี้และการตั้ง AMC เพื่อรองรับการซื้อหนี้เสียในระบบการเงิน โดยให้ราคาเป้าหมาย 30 บาท

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF คาดว่ากำไรไตรมาส 4/2568 จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อน และไตรมาสก่อน โดยมีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) โดยให้ราคาเป้าหมาย 59 บาท

ส่วนผลตอบแทนจากหุ้นเด่นที่แนะนำในสัปดาห์ก่อนหน้า ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  หรือ ADVANC, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.36% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ปรับตัวลดลง 0.50%

ด้านธีมการลงทุน (Investment Theme) เดือนพฤศจิกายน 2568 แนะนำ ADVANC, MTC, GULF, TRUE, KTB, PTTGC และ CENTEL ขณะที่หุ้นเด่นประจำไตรมาส 4/2568 ได้แก่ AOT, BJC, CPALL, GULF, HMPRO, IVL, MTC, PTTGC, TOP และ WHA

สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กที่น่าสนใจ (Small Cap Play) ได้แก่ AMATA, CENTEL, ERW และ GLOBAL ซึ่งมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

Back to top button