
CGSI มองบวกงบ “หุ้นแบงก์” ไตรมาส 4 รับสินเชื่อ “ธุรกิจ–ครัวเรือน” โต
CGSI คงน้ำหนักลงทุนกลุ่มแบงก์ เลือก SCB-KTB เป็นท็อปพิกรับปันผลสูง ขณะที่แนวโน้มสินเชื่อ Q4/68 เพิ่มขึ้นจากความต้องการของภาคธุรกิจ–SME และสินเชื่อเช่าซื้อรถ
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานผลสำรวจแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 4 ปี 2568 พบว่าสินเชื่อภาคธุรกิจมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยความต้องการสินเชื่อจากทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางการลงทุนและการหมุนเวียนเงินทุนในระบบเศรษฐกิจ
ในส่วนของสินเชื่อภาคครัวเรือน พบว่ามีแนวโน้มขยายตัวเช่นกัน โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากมาตรการส่งเสริมการขายของผู้ผลิตรถยนต์ และงาน “Thailand International Motor Expo” ที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ขณะที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบัตรเครดิตคาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า
แม้ความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจะเป็นแรงหนุนให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มเติบโต แต่ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังคงประมาณการอัตราการเติบโตของสินเชื่อรวมในปี 2568–2570 ที่ระดับ -3.3%, +1.1% และ +2.0% ตามลำดับ โดยสินเชื่อรวมช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 3% จากสิ้นปี 2567
CGSI ระบุเพิ่มเติมว่า สถาบันการเงินมีแนวโน้มเข้มงวดมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้า SME เนื่องจากผู้ประกอบการบางรายยังมีความเปราะบางในภาวะเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่จะปรับตัวดีขึ้นตามต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง ขณะที่มาตรฐานสินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาส 4/68 จะใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า
นอกจากนี้ CGSI เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังร่วมกับ ธปท. เตรียมเปิดตัวโครงการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ผ่านการซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อไม่มีหลักประกัน วงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย จากธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ และบริษัทลูกของธนาคาร โดยตั้งเป้าให้บริษัทบริหารสินทรัพย์เข้าซื้อหนี้รวม 1.9 ล้านราย ภายใต้งบประมาณเฟสแรก 44,000 ล้านบาท คาดโครงการจะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปี 2569 เพื่อช่วยลด NPL ในงบดุลของธนาคารและเปิดโอกาสให้ลูกหนี้กลับมาฟื้นเครดิตในระบบอีกครั้ง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน CGSI แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral)” ในกลุ่มธนาคาร เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น แต่ยังเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง โดยกลุ่มธนาคารซื้อขายอยู่ที่อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ปี 2569 ที่ 0.68 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 0.64 เท่าเล็กน้อย พร้อมเลือก ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม จากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6.3–9.6% ต่อปีในช่วงปี 2569–2570
ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารอาจเผชิญความเสี่ยงด้านลบ (Downside Risk) หากสัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นหรือ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่ปัจจัยบวก (Upside Risk) จะมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงภาษีสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดและการเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล