“ดาวโจนส์” ปิดบวก 327 จุด ทุบสถิติซ้ำ “ออลไทม์ไฮ” จับตาชัตดาวน์สหรัฐปิดฉาก

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งทำนิวไฮวันที่ 2 ติดต่อกัน รับแรงหนุนความคืบหน้ายุติชัตดาวน์สหรัฐฯ ที่คาดได้ข้อสรุปวันนี้ ขณะเดียวกันแรงขายหุ้นเทคฯ ยังกดดันดัชนีแนสแด็กปิดลบต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในคืนวันพุธ (12 พ.ย.68) ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยทำนิวไฮ “ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์” ขานรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อมานานถึง 43 วัน โดยคาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติผ่านร่างงบประมาณในช่วงคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเช้าวันนี้ (13 พ.ย.68) ตามเวลาไทย

ในการปิดการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 48,254.82 จุด เพิ่มขึ้น 326.86 จุด หรือ 0.68% ขณะที่ดัชนี S&P 500 (.SPX)ปิดที่ 6,850.92 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ 0.06%

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารและเฮลธ์แคร์ โดยหุ้น Goldman Sachs พุ่งขึ้น 3.54% หุ้น JPMorgan บวก 1.47% และหุ้น UnitedHealth Group เพิ่มขึ้น 3.55% สะท้อนแรงซื้อที่ไหลกลับเข้าหุ้นกลุ่มพื้นฐานแข็งแกร่ง

ด้านดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดอ่อนตัวลงสู่ระดับ 23,406.46 จุด ลดลง 61.84 จุด หรือ 0.26% จากแรงขายในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งสะท้อนการหมุนเวียนเม็ดเงินจากหุ้นเทคโนโลยีไปสู่หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการชัดเจนกว่าในช่วงนี้

โดยหุ้น Amazon ร่วงลง 1.9% หุ้น Tesla ลดลง 2% และหุ้น Palantir อ่อนตัวลง 3.5% ขณะที่บรรยากาศในหุ้นเทคฯ ยิ่งเปราะบาง หลัง SoftBank Group ของญี่ปุ่นได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัท Nvidia มูลค่าราว 5.83 พันล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนกังวลว่ากระแสการเติบโตของเทคโนโลยี AI อาจเริ่มแตะเพดาน โดยเฉพาะหลังผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ในวอลล์สตรีทยังคงส่งสัญญาณเชิงระมัดระวัง

ตลาดยังจับตาผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งจะประกาศในสัปดาห์หน้า โดยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยชี้วัดทิศทางธุรกิจ AI รอบถัดไป

นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อครบวาระในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ท่ามกลางความกังวลว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเข้ามามีอิทธิพลต่อทิศทางนโยบายการเงินมากขึ้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ ยังสะท้อนความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้น โดยสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ (MBA) ระบุว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเพิ่มขึ้น 6% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นถึง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองแบบคงที่ 30 ปี สำหรับวงเงินไม่เกิน 806,500 ดอลลาร์ จะขยับขึ้นสู่ระดับ 6.34% จาก 6.31% ในสัปดาห์ก่อนหน้า

ท่ามกลางปัจจัยที่ประคอง sentiment ตลาด ดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดเหนือระดับ 48,000 จุดเมื่อคืนนี้ ถือเป็นการทุบสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง จากระดับ 47,927.96 จุดในวันก่อนหน้า และ 47,706.37 จุดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้การปิดตลาดวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เป็นการทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

“ดาวโจนส์” ปิดบวก 559 จุด “ออลไทม์ไฮ” หวังรัฐบาลสหรัฐยุติชัตดาวน์

Back to top button