
M บุฟเฟต์กินกำไร.!
ตีโป่งด้านเซนติเมนต์กันเยอะ สำหรับหุ้นหม้อร้อน บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M จากเมื่อหลายเดือนก่อนราคาไหลลงไปลึกสุดใจที่ 14 บาทเศษ
ตีโป่งด้านเซนติเมนต์กันเยอะ สำหรับหุ้นหม้อร้อน บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M จากเมื่อหลายเดือนก่อนราคาไหลลงไปลึกสุดใจที่ 14 บาทเศษ พอตั้งหลักได้ก็เริ่มไต่เพดานขึ้นมาเรื่อย ๆ กระทั่งราคากลับมายืนเหนือ 30 บาทได้อีกครั้ง โดยรอบ 6 เดือน ราคาปรับขึ้นไปแล้ว 65.73% และรอบ 3 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 18%
ราคาหุ้น M ปรับขึ้นมาพร้อมกับความคาดหวังของนักลงทุนที่ว่า โปรฯ บุฟเฟต์ราคา 299 บาท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. 2568 จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับ “เอ็มเคสุกี้” อีกครั้ง โดยเฉพาะงบไตรมาส 3/2568 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกที่จะรับรู้โปรฯ บุฟเฟต์ 299 บาท เต็มไตรมาส…
ที่ผ่านมาเลยเห็นแรงเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น M กันอย่างคึกคัก แม้ระหว่างทางจะมีการขายทำกำไรไปบ้างก็ตาม…
แต่พอ M ประกาศงบไตรมาส 3/2568 ออกมาแทนที่จะ “ปัง” อย่างที่หวัง กลับ “พัง” ราบคาบ เนื่องจากทำกำไรสุทธิหล่นหายไปกว่า 34% เหลือแค่ 226 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 341 ล้านบาท แถมยังลดลง 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 276 ล้านบาท
ตัวการหลักก็มาจากโปรฯ บุฟเฟต์ 299 บาทนั่นแหละ…โอเค แม้จะทำให้รายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นถึง 202 ล้านบาท มาอยู่ที่ 3,884 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ยอดขายสาขาเดิมปรับเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า
โดยเฉพาะในเดือน ก.ย.ที่ได้มีการปรับเพิ่มเมนูบุฟเฟต์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ลูกค้าสามารถสั่งเมนูกุ้งสด เอ็มเค ได้ในราคาเพียง 59 บาท ส่งผลให้ยอดขายเดิมในเดือน ก.ย.เติบโตถึง 12% เลยทีเดียว
แต่…ในทางกลับกันโปรฯ บุฟเฟต์ 299 บาท ก็ทำให้ต้นทุนขายพุ่งพรวดมาอยู่ที่ 1,403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.1% ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งประกอบด้วยค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและส่งเสริมการขาย ค่าวัสดุสิ้นเปลือง เพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท มาอยู่ที่ 2,267 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.6%
และด้วยแบรนด์ “เอ็มเคสุกี้” ถูกจดจำในฐานะสุกี้ชาบูราคาพรีเมียม แน่นอนวัตถุดิบที่ใช้ รวมถึงการบริการของพนักงานก็จัดเป็นพรีเมียม แต่การลงมาเล่นตลาดบุฟเฟต์ นั่นหมายถึง M ต้องยอมกรีดเลือดเฉือนกำไรตัวเอง ส่งผลให้มาร์จิ้นบางลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนได้จากอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ที่ปรับลดลงเหลือแค่ 63.9% จาก 67.8% ในไตรมาส 3/2567 และ 65.2% ในไตรมาส 2/2568
เมื่อกำไรไม่มาตามนัด วานนี้ (13 พ.ย. 2568) หุ้น M เลยเละเป็นโจ๊ก…ถูกบทลงโทษจากนักลงทุน ด้วยการกระหน่ำขายไม่ยั้ง จนราคาทรุดไปต่ำสุดระหว่างวัน ที่ 23.30 บาท ก่อนจะปิดตลาดที่ 24.40 บาท ปรับลดลง 17.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 542.42 ล้านบาท
ก็เข้าใจแหละว่า M มีความจำเป็นต้องลงมาเล่นสงครามบุฟเฟต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลย มีหวังได้ถูกคู่แข่งอย่าง “สุกี้ตี๋น้อย” เบียดตกบัลลังก์เบอร์หนึ่งแหง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ M ยอมไม่ได้..!!
เป็นที่มาให้ทั้งคู่ต้องงัดโปรโมชันลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เพื่อหวังมัดใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด และนำมาสู่การเปิดศึกสงครามหม้อร้อนเต็มรูปแบบ..!?
ขนาดที่ว่า M ถึงขั้นเปิดแบรนด์ใหม่ “โบนัส สุกี้” (Bonus Suki) ในราคา Net 276 บาท เปิดเที่ยงวัน-ตีห้า เพื่อเป็นไฟต์ติ้งแบรนด์ชนกับ “สุกี้ตี๋น้อย” โดยเฉพาะ ซึ่งมีแผนจะเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. โดยตั้งเป้าเปิดไม่น้อยกว่า 10 สาขาภายในปี 2568
แต่สิ่งที่ตามมา M ต้องแบกค่าใช้จ่ายก่อนเปิดสาขาของแบรนด์ Bonus Suki ซึ่งมีสัดส่วนพนักงานต่อสาขาค่อนข้างสูง ประมาณ 70-80 คนต่อสาขาเลยทีเดียว
ทำให้ในไตรมาสนี้ M ถูกโปรฯ บุฟเฟต์กัดกินกำไรไปเต็ม ๆ…
ก็หวังว่า โปรฯ บุฟเฟต์จะเซาะกร่อนบ่อนทำลายกำไร M แค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก็จะกลายเป็นกองหนุนการเติบโตให้กับ M ได้
ส่วนที่ราคาหุ้นไหลลงมาลึก ให้ถือว่าเป็นจังหวะเก็บของดีราคาถูกก็แล้วกัน…
สรุปว่าการทำสงครามบุฟเฟต์ของ M และ “สุกี้ตี๋น้อย” เจ็บด้วยกันทั้งคู่..!! เพราะกำไรลดลงเหมือนกัน
ส่วนคนที่ได้คงหนีไม่พ้นลูกค้าที่ได้น้ำหนักขึ้นกันหลายกิโลฯ เลยทีเดียว…
…อิ อิ อิ…