“สุเชษฐ์” ลุ้น SET รีบาวด์! แนะกลยุทธ์ ”ตั้งรับ” แนะเก็บ 5 หุ้นเด่น

“สุเชษฐ์ สุขแท้” มองตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ขึ้น โดยให้แนวรับบริเวณ 1,270–1,262 จุด ส่วนแนวต้านที่บริเวณ 1,282-1,290 จุด


นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (ASL) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ว่าภาพรวมตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นเอเชียเปิดการซื้อขายด้วยภาวะอ่อนตัวพร้อมกันทุกตลาด โดยออสเตรเลียปรับลดลง 147 จุด คิดเป็น 1.65% ญี่ปุ่นลดลงมากถึง 891 จุด คิดเป็น 1.77% เกาหลีใต้ลดลง 74 จุด หรือประมาณ 1.81% ไต้หวันลดลง 315 จุด หรือ 1.51% และฮ่องกงลดลงราว 251 จุด คิดเป็น 0.94% สะท้อนภาวะแรงขายที่กดดันตั้งแต่ตลาดสหรัฐและยุโรปต่อเนื่องมาถึงเอเชีย

นายสุเชษฐ์ ระบุว่า ภาพรวมขณะนี้เป็นลักษณะ “ตลาดถอย” ทั้งเอเชีย รวมถึงตลาดยุโรปที่อ่อนแรง โดยเยอรมนีปรับตัวลง 286 จุด ส่วนอิตาลีลดลง 227 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังไม่สามารถยืนเหนือระดับสำคัญได้ น้ำมันดิบเบรนท์ยังไม่ผ่านบริเวณ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส WTI อ่อนตัวลงสู่ระดับประมาณ 59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานยังเคลื่อนไหวเชิงลบ และกดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม

สำหรับตลาดหุ้นไทย นายสุเชษฐ์มองว่า SET INDEX จุดที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือแนวรับบริเวณ 1,270–1,262 จุด โดยให้แนวต้านที่บริเวณ 1,282-1,290 จุด ซึ่งถือเป็นระดับสำคัญอย่างมาก หากยืนได้มองว่าตลาดมีโอกาสรีบาวน์ขึ้นอีกครั้ง

แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิเมื่อวานกว่า 1,700 ล้านบาท โดยเน้นเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคารและสื่อสาร แต่เขาระบุว่าแรงซื้อดังกล่าวมีลักษณะเป็นเพียงการฟื้นตัวระยะสั้นจากหุ้นใหญ่หลายตัว ไม่ใช่สัญญาณหมุนกลับของกระแสเงินทุนอย่างชัดเจน จึงยังไม่เพียงพอให้ตลาดไทยกลับเข้าสู่แนวโน้มบวกอย่างมั่นคง

โดยหุ้นเด่นที่น่าสนใจนวันนี้ พร้อมให้แนวรับและแนวต้าน ได้แก่ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA แนวรับ 3.10 บาท แนวต้าน 3.20 บาท, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB แนวรับ 125 บาท แนวต้าน 130 บาท, บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH แนวรับ 175 บาท แนวต้าน 185 บาท, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL แนวรับ 155 บาท แนวต้าน 160 บาท, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP (โอสถสภา) แนวรับ 15 บาท แนวต้าน 16.50 บาท

นายสุเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตลาดช่วงนี้ต้องใช้กลยุทธ์แบบ “ตั้งรับและระมัดระวัง” เพราะแม้ว่าจะยังมีหุ้นบางตัวที่พอเคลื่อนไหวเชิงบวกได้ แต่หลายกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงเผชิญผลประกอบการที่อ่อนแรง ทั้งกลุ่มอาหาร พาณิชย์ และโรงพยาบาล โดยกลุ่มธนาคารแม้จะช่วยประคองดัชนี แต่ยังไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนตลาด ขณะที่กลุ่มสื่อสารขยับขึ้นได้เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่เท่านั้น

ในด้านปัจจัยพื้นฐาน นายสุเชษฐ์มองว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังประกอบด้วยความไม่แน่นอนหลายด้าน ทั้งข่าวด้านการเมือง นโยบายรัฐ การเลือกตั้งท้องถิ่น และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังมีผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางเงินทุนไหลเข้า–ออก รวมถึงสภาพคล่องในตลาดไทยที่ยังเบาบางกว่าปกติ ทำให้นักลงทุนควรระวังการไหลหายของเม็ดเงินภายในวัน

อย่างไรก็ตามคำแนะนำว่า ในภาวะที่ตลาดยังอ่อนแรง หากนักลงทุนมีกำไรในบางหุ้น ควรทยอยทำกำไรออกมาก่อน และรอประเมินจังหวะใหม่เมื่อดัชนีลงสู่บริเวณ 1,250 จุดหรือต่ำกว่า ซึ่งอาจเป็นช่วงที่เหมาะสมกว่าในการพิจารณาเข้าซื้อ โดยควรติดตามแนวรับสำคัญ 1,270 จุดให้ใกล้ชิด เนื่องจากระดับดังกล่าวถือเป็นตัวบ่งชี้ภาวะความแข็งแรงของตลาดในระยะสั้นได้อย่างชัดเจน

Back to top button