
NRF เนื้อเทียมสต๊อกเทา.!?
ดูจากงบการเงินของบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF แล้วน่าต๊กกะใจ บอกได้คำเดียวว่า..อาการน่าเป็นห่วง
ดูจากงบการเงินของบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF แล้วน่าต๊กกะใจ บอกได้คำเดียวว่า..อาการน่าเป็นห่วง ใคร ๆ เขาก็เตือน…ทั้ง ๆ ที่ช่วงหนึ่ง NRF เคยเป็นหุ้นดาวรุ่งพุ่งแรงของตลาดหลักทรัพย์ฯ จากธุรกิจแพลนต์ เบส ฟู้ด (Plant based food) อาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก หรือเนื้อเทียม ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ และถูกมองว่าจะเติบโตก้าวกระโดด
แต่สุดท้ายมาติดกับดักงบการเงิน เนื่องจากงบประจำปี 2567 และงวดไตรมาส 1/2568 มีปัญหาเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Kairous Asia Limited (KAL) ซึ่งไม่เข้าคำนิยามของการเป็นธุรกิจ ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการพิจารณาการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทย่อย บริษัท รีเจนเนอเรชั่น แคปปิตอล จำกัด (RCL) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของ KAL ในงบการเงินเฉพาะกิจการ…เป็นที่มาให้มีการจัดตั้งผู้ตรวจสอบอิสระเป็นกรณีพิเศษ หรือ Special Audit นั่นเอง…
ต่อมาช่วงปลายเดือน ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา NRF ได้รายงานงบปี 2567 (ฉบับแก้ไข) มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 434.95 ล้านบาท เทียบกับปี 2566 ที่ขาดทุนสุทธิ 65.79 ล้านบาท ส่วนงวดไตรมาส 1/2568 (ฉบับแก้ไข) มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 199.30 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 49.71 ล้านบาท ขณะที่งบไตรมาส 2/2568 มีผลขาดทุนสุทธิ 83.50 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.19 ล้านบาท
แต่ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งให้ NRF แก้ไขใหม่ทั้งหมด ย้อนไปตั้งแต่งบปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1/2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2/2568
“สืบเนื่องจากผู้สอบบัญชีได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับรายการปรับปรุงผลแตกต่างจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อยบริษัท โบทานี เพ็ทแคร์ จำกัด ในงบการเงินงวดดังกล่าว เหตุเพราะไม่สามารถระบุจำนวนผลกระทบที่เป็นตัวเงินต่อรายการปรับปรุงสินค้าคงเหลือและต้นทุนขาย รวมถึงบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้องได้ เนื่องจากกลุ่มบริษัทยังไม่สามารถหาสาเหตุของผลแตกต่างจากการกระทบยอดสินค้าคงเหลือในส่วนของปริมาณได้ทั้งหมด รวมถึงยังไม่ได้จัดทำเอกสารการคำนวณต้นทุนต่อหน่วยใหม่ที่สะท้อนต้นทุนจริง
และจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อยดังกล่าว พบผลแตกต่างจากยอดสินค้าคงเหลือที่ตรวจนับได้กับยอดคงเหลือในบัญชี”
อย่าบอกนะว่า NRF ก็มีปัญหาสต๊อกเทา..!?
โดย NRF ได้ปรับปรุงผลแตกต่างจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือในงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1/2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2/2568 แล้ว ซึ่งผลแตกต่างบางส่วนเกิดจากการวัดมูลค่าของต้นทุนสินค้าสำเร็จรูปและสินค้ากึ่งสำเร็จรูป โดยใช้วิธีต้นทุนมาตรฐานที่มีผลแตกต่างจากต้นทุนจริง
ดังนั้น “การปรับปรุงผลต่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดเข้าบัญชีต้นทุนขาย โดยไม่ได้มีการปันส่วนเข้าบัญชีสินค้าสำเร็จรูป ประกอบกับการใช้ต้นทุนต่อหน่วยจากข้อมูลในระบบบัญชีก่อนการปรับปรุงผลต่างในการคำนวณรายการปรับปรุงดังกล่าว จึงไม่เป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน”
จากปัญหางบการเงิน ก็นำมาสู่การแขวนป้าย SP (อีกครั้ง) ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2568 ยาวปายยย…
แต่แหม๊…เห็นเคสของ NRF แล้ว ทำให้หวนนึกถึงสต๊อกลมของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือSTARK ที่มีการตกแต่งบัญชีลวงโลกจนสร้างความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท และกลายเป็นมหากาพย์การโกงของตลาดหุ้นไทย
ไม่หรอกมั้ง…คงไม่ซ้ำรอยกันหรอก..!?
จะว่าไปก็น่าเสียดาย…NRF เป็นผู้นำอาหารแพลนต์ เบส มีพันธมิตรเป็นทั้งยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของไทย รวมถึงพันธมิตรที่เป็นระดับโลก…เรียกว่าเครือข่ายดี แต่ดันมาติดกับดักการเงิน อนาคตเลยริบหรี่..!!
ก็น่าจับตาเนื้อเทียมจะนำไปสู่สต๊อกเทาอ๊ะป่าว..??
แต่ไม่ต้องรอนาน ในวันที่ 18 ธ.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันเดดไลน์ของ ก.ล.ต. คงได้รู้กัน…
…อิ อิ อิ…