THAI บวกต่อ 7% โบรกอัพกำไรปี 68 ทะลุ 3.6 หมื่นล้าน รับ High Season–น้ำมันลดหนุน

THAI บวกต่อ 7% โบรกประเมินไตรมาส 4/68 เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว และราคาน้ำมันลดต่ำ อัพกำไรทั้งปี 68 แตะ 3.6 หมื่นล้านบาท พร้อมคาดปี 69–70 โตต่อจากกำลังการให้บริการเพิ่มและรับมอบเครื่องบินใหม่หลายลำ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(20 พ.ย.68) ราคาหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ปรับเพิ่มขึ้นต่อ โดย ณ เวลา 11:02 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 9.60 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 6.67% ราคาสูงสุด 9.65 บาท ราคาต่าสุด 9.05 บาท มูลค่าการซื้อขาย 382.86 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” หุ้น THAI และประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 10.1 บาท หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 (ก.ค.-ก.ย.2568) ออกมาดีกว่าคาด และแนวโน้มไตรมาส 4/2568 (ต.ค.-ธ.ค.2568) เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว (High Season) ขณะที่ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ จึงยังเป็นปัจจัยบวกให้กับผลประกอบการได้ ส่วนการจัดเครื่องบิน ล่าสุดผู้บริหาร THAI แจ้งว่าช่วงปลายปี 2569 จะมีการรับมอบเครื่องบินลำตัวกว้างอีก 4 ลำ ก่อนที่ช่วงปลายปี 2570 จะทยอยรับมอบเครื่องบินที่สั่งซื้อไปเข้ามา

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3/2568 THAI รายงานกำไรสุทธิ 4,413 ล้านบาท ลดลง 55% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรสุทธิ 5,415 ล้านบาท ลดลง 20% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นถึง 307% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่บริษัทหลักทรัพย์ พายฯ คาดไว้ถึง 25% เนื่องจากค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงที่ต่ำกว่าคาด เพราะมีการปรับแผนซ่อมบำรุงให้ล่าช้าออกไป ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง โดยกำไรช่วงไตรมาส 3/2568 ที่ออกมาดีกว่าที่คาดดังกล่าว ทำให้ บริษัทหลักทรัพย์ พายฯ ปรับประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้นเล็กน้อยเป็น 36,345 ล้านบาท ส่วนปี 2569 ปรับเป็น 29,781 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม THAI ยังมีปัจจัยเสี่ยงคือการสิ้นสุดระยะเวลาห้ามซื้อ-ขาย (Silent Period) ของเจ้าหนี้ที่แปลงหุ้นเป็นทุน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นออกมาได้ เนื่องจากต้นทุนอยู่ในระดับ 2.54 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “Neutral” จากเดิมแนะนำ “ขาย” สำหรับหุ้น THAI โดยคงราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาท หลังจากได้รับข้อมูลจาก THAI ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้มีมุมมองเชิงบวกขึ้นเล็กน้อยต่อ THAI โดยประเมินว่าผลการดำเนินงานปี 2569 จะเติบโตจากเดิมที่เคยประเมินว่า THAI จะมีกำไรปกติที่ 23,146 ล้านบาท ลดลง 26% จากปีก่อนหน้า เพราะมีปัจจัยกำลังการให้บริการที่สูงกว่าคาด และต้นทุนค่าซ่อมแซมอาจต่ำกว่าคาด

นอกจากนี้ คณะกรรมการ THAI อาจมีการทบทวนแผนการเพิ่มฝูงบิน (จาก 78 ลำในปี 2568 เป็น 150 ลำในปี 2576) แล้วเสร็จช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ และการเช่าเครื่องบินเพิ่มอีก 8-10 ลำในปี 2569 จะทราบผลกลางเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งหาก THAI ตัดสินใจเช่าเครื่องบินเพิ่มจะทำให้กำลังการให้บริการ (ASK) ในปี 2569 มีการเติบโตขึ้นจากเดิม 4% เป็น 10% จากปีก่อนหน้า และการบริหารเส้นทางบินที่มีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น

ขณะเดียวกันผู้บริหาร THAI ได้ชี้แจงค่าซ่อมแซมเครื่องบินช่วงไตรมาส 3/2568 ที่ 3,503 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 15% และลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37% เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรเติบโต 129% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยังไม่ถึงกำหนดส่งซ่อมตามตารางการส่งซ่อม, เงินบาทแข็งค่ากว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน, ได้เงินประกันค่าซ่อมแซมคืนจากการปลดระวางเครื่องบินบางลำ และการเปลี่ยนสัญญาเช่าเป็นซื้อเครื่องบิน 4 ลำ โดยผู้บริหาร THAI ยังอยู่ระหว่างศึกษาการเปลี่ยนรูปแบบจัดหาจากเช่าเป็นซื้อในปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 20,760 ล้านบาท และมีโอกาสต่ำกว่าอัตราดังกล่าว ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการปี 2569

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นหุ้น THAI ยังคงมีปัจจัยลบกดดันจากการเข้ามาแทรกแซงกิจการของภาครัฐ ซึ่ง THAI จะมีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่อเลือกกรรมการใหม่ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568  และ Silent Periodหุ้นเพิ่มทุน (ต้นทุน 2.5452-4.48 บาทต่อหุ้น) จำนวน 6.6 พันล้านหุ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 และอีก 2 หมื่นล้านหุ้นในเดือนสิงหาคม 2569

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด แนะนำ “ถือ” หุ้น THAI โดยให้มูลค่าเหมาะสมที่ 9.50 บาท โดยพบว่าอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในเดือนตุลาคม และครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤศจิกายน 2568 ยังอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส 3/2568 คือเฉลี่ย 76.8% อย่างไรก็ตามช่วง High Season ในเดือนธันวาคม 2568 ที่แข็งแกร่งน่าจะช่วยหนุนให้  Cabin Factor เฉลี่ยทั้งไตรมาส 4/2568 อยู่ในระดับ 82.4% ใกล้เคียงกับปีก่อน ผู้บริหาร THAI ยังคงการเติบโตของผู้โดยสารช่วงครึ่งปีหลังนี้ (ก.ค.-ธ.ค.68) ที่ 1-3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะมีเครื่องบินแอร์บัส A321neo เข้ามาให้บริการปลายปีนี้อีก 2 ลำ และคาดว่าจำนวนผู้โดยสารปี 2569 จะเติบโตอีก 4% เนื่องจากจะมีเครื่องบินใหม่เข้ามาเป็นระยะตลอดทั้งปี ประเมินว่า THAI จะมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารระดับ double digit ปี 2570

Back to top button