เปิดใจ ‘เสถียร’ ฝ่ามรสุม CBG แข่งเดือด

CBG ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากยอดขายเบียร์ที่ยังไม่สามารถคุ้มทุนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมทั้งแรงกดดันจากยอดขายในกัมพูชาที่ลดลง


เส้นทางนักลงทุน

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากยอดขายเบียร์ที่ยังไม่สามารถคุ้มทุนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมทั้งแรงกดดันจากยอดขายในกัมพูชาที่ลดลง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ “เสถียร เสถียรธรรมะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CBG ในฐานะผู้ก่อตั้งโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เบียร์คาราบาว เบียร์ตะวันแดง ได้ออกมาเปิดใจยอมรับว่า ธุรกิจเบียร์ยังคงขาดทุนราว 1,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ปี ที่ทำตลาดเบียร์มา

สาเหตุหลัก ๆ เป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะการแข่งขันกับ 2 คู่แข่งรายใหญ่ ค่ายสิงห์ และช้าง ที่คุมตลาดถึง 90% ในตลาดเบียร์ที่มีมูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ธุรกิจค้าปลีกก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงไม่แตกต่างกัน

ในช่วงปลายปี 2566 “เสถียร เสถียรธรรมะ” เปิดตัวเบียร์แบรนด์ใหม่ ด้วยการประกาศลงทุน 4,000 ล้านบาท ตั้งโรงเบียร์แห่งใหม่โดยพัฒนาต่อยอดมาจากเบียร์สดเยอรมันตะวันแดง สร้างโรงผลิตเบียร์กำลังการผลิตเบื้องต้น 200 ล้านลิตร ปัจจุบันเพิ่มเป็น 300 ล้านลิตร ใช้กำลังการผลิตราว 20% โดยคาดว่าผลขาดทุนดังกล่าวนี้จะสามารถพลิกกลับมาเสมอตัว หรือมีกำไรได้ภายในปี 2569

สำหรับ CBG ซึ่งประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือเป็น Holding Company ที่มีการลงทุนหลักในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจทั้งการผลิต, ทำการตลาด, การจำหน่าย และบริหารจัดการการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างครบวงจรนั้น

โครงสร้างรายได้ภายในกรุ๊ปจะมาจากรายได้ในประเทศ 71% และต่างประเทศ 29% โดยในส่วนของต่างประเทศ กลุ่ม CLMV จะมีสัดส่วนรายได้รวมกันสูงถึง 27% ที่เหลือเป็น UK และอื่น ๆ อย่างละ 1% (ข้อมูล ณ ไตรมาส 2 ปี 2568)

ขณะที่ไส้ในของรายได้จะมาจากรายได้จากการดำเนินการผลิต ภายใต้เครื่องหมายการค้าของจากยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดง, รายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก เช่น สินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเบียร์คาราบาว และเบียร์ตะวันแดง ผ่านร้านค้าพันธมิตรเพื่อกระจายความนิยมและกระจายสินค้าให้กว้างขวาง

ตลอดจนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการผลิต ได้แก่ น้ำดื่ม กาแฟ 3 in 1 กาแฟกระป๋อง และรายได้อื่น ๆ

อีกหนึ่งแรงกดดันที่เกิดขึ้นนั่นคือ ยอดขายจาก CLMV ลดลง โดยเฉพาะยอดขายจากประเทศกัมพูชาภายหลังเกิดความขัดแย้งตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ โดยปัจจุบัน CBG ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงงานผลิตสินค้าที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งตามแผนงานคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปี 2568 นี้ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาความไม่แน่นอนในการนำเข้าสินค้าในระยะยาว แต่ในทางปฏิบัติทุกอย่างจะราบรื่นตามแผนที่วางไว้หรือไม่ต้องรอพิจารณา

นอกจากนี้ ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังจะได้รับแรงกดดันจากพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ฉบับใหม่ ที่มีการกำหนดโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านค้า หรือสถานบริการในช่วงเวลาห้ามขาย เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในการดื่ม เมื่อยังไม่หมดจะนั่งดื่มต่อ จึงมีความเสี่ยงกระทำผิด รวมทั้งยังสวนทางกับการผลักดันประเทศไทยให้เป็นแหล่งในการท่องเที่ยว

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้ “เสถียร เสถียรธรรมะ” มั่นใจว่าหากจะพูดถึงยอดขาย โดยภาพรวมของ CBG ทั้งปี 2568 แล้ว น่าจะยังดูดี แต่ในด้านการทำกำไรหรู ๆ คงต้องรอปัจจัยกดดันต่าง ๆ คลี่คลายก่อน

อย่างไรก็ตาม CBG ประเมินว่ายอดขายช่วงไตรมาส 4 ปีนี้จะเติบโตโดดเด่นจากปัจจัยฤดูกาล ซึ่งยอดขายจะเพิ่มขึ้น ขณะที่โครงการ “คนละครึ่งพลัส” จะช่วยหนุนยอดขายของร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ชี้ว่า CBG จะมีกําไรสุทธิไตรมาส 3 ปีนี้ที่ 647 ล้านบาท ลดลง 13% จากงวดปีก่อน แม้ยอดขายจะปรับขึ้น มีสาเหตุจากอัตรากําไรขั้นต้นลดลงตามสัดส่วนยอดขายเครื่องดื่มชูกําลังในต่างประเทศที่ปรับลดลง แต่การรับจ้างจัดจําหน่ายสินค้าให้บุคคลอื่น (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น รวมทั้งคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการอัดโปรโมชันทางการตลาดเพิ่มขึ้น

กําไรสุทธิของ CBG กลับมามีแนวโน้มบวกอีกครั้งในไตรมาส 4 นี้ จากผลของฤดูกาลที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดย CBG มีสัดส่วนการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมอยู่ที่ 70% ของยอดขายเครื่องดื่มชูกําลังในประเทศ และแนวโน้มยอดขายเครื่องดื่มชูกําลังในเมียนมาที่น่าจะปรับดีขึ้น

“เสถียร เสถียรธรรมะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CBG ตบท้ายว่าไม่เสียใจที่ลุกขึ้นมาขยายธุรกิจเบียร์ เพราะได้สร้างตำนานครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กลุ่มคาราบาวสามารถส่ง “เบียร์สดเยอรมันตะวันแดง” บุกตลาดนอกโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้สำเร็จแล้ว

Back to top button