ในหลวงมีพระราชกระแสห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม สั่งรัฐบาล–หน่วยงานเร่งช่วยพื้นที่เสี่ยง
นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ก่อนเสนอ ครม. เร่งช่วย 10 จังหวัด ขณะราชเลขานุการในพระองค์อัญเชิญพระราชกระแสห่วงใย พร้อมกำชับหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (25 พ.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคใต้
โดยในช่วงเริ่มต้นการประชุม นายกรัฐมนตรีได้เชิญ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเลขาธิการพระราชวัง เข้าร่วมประชุม เพื่ออัญเชิญพระราชกระแสรับสั่งแสดงความห่วงใยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ และได้พระราชทานความช่วยเหลือ พร้อมทรงโปรดให้ระดมสรรพกำลังทั้งฝ่ายพลเรือน ฝ่ายทหาร และหน่วยราชการต่าง ๆ เร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยด่วน โดยเฉพาะด้านการสนับสนุนเรือเพื่ออพยพผู้ประสบอุทกภัยออกจากพื้นที่อันตรายไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่จัดเตรียมไว้
นอกจากนี้ ยังมีพระราชกระแสรับสั่งให้สนับสนุนปัจจัยจำเป็นต่าง ๆ ทั้งน้ำดื่ม อาหาร และการขนส่ง โดยจะระดมกำลังจากกองทัพบก กองทัพเรือ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งทรงชื่นชมจิตอาสาทั่วประเทศที่ได้ร่วมแรงร่วมใจให้ความช่วยเหลือ ไม่เพียงกรณีอุทกภัยในภาคใต้ครั้งนี้ แต่รวมถึงทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา ที่ทุกฝ่ายได้ประสานงานอย่างเข้มแข็งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ต่อจากนั้น นายอนุทิน เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรายงานว่า เตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนใน 10 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 92 อำเภอ 581 ตำบล 4,146 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 719,858 ครัวเรือน รวม 1,917,521 คน
ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณามาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน นำร่องรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ–รังสิต / บางซื่อ–ตลิ่งชัน) และสายสีม่วง (เตาปูน–คลองบางไผ่) เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพด้านการเดินทางของประชาชน

