
พาราสาวะถี
หลังจากระดมกวาดต้อนบรรดาบ้านเล็กบ้านใหญ่ นักเลือกตั้งตามกระสุนไม่สนกระแส เข้าคอกจนเป็นที่พอใจ และพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่แล้ว
หลังจากระดมกวาดต้อนบรรดาบ้านเล็กบ้านใหญ่ นักเลือกตั้งตามกระสุนไม่สนกระแส เข้าคอกจนเป็นที่พอใจ และพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่แล้ว นาทีนี้สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทางภาคใต้เป็นจังหวะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องเร่งระดมสรรพกำลังในการเข้าไปช่วยเหลือ แสดงศักยภาพในการดูแลพี่น้องปักษ์ใต้ให้แข็งขัน เพราะนี้จะเป็นอีกฐานที่มั่นสำคัญในการกวาดเก้าอี้ สส.ของพรรคภูมิใจไทย ด้วยบารมีที่หนุนหลังเสี่ยหนู และการดูแลชนิดถึงใจพระเดชพระคุณท่านของ พิพัฒน์ รัชกิจประการ นายทุนพรรคคนสำคัญ ที่ทำหน้าปูพรมเรียกความนิยมให้กับพรรคสีน้ำเงินในพื้นที่ด้ามขวานมาตั้งแต่ต้น
การปักหลักในพื้นที่สองวันติด และสั่งการทุกองคาพยพในสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ นี่คือไม้เด็ดที่หวังผลถึงความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดต่อผลการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าหลุดจากพรรคสีน้ำเงิน ก็ยังมีกล้าธรรมของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่คอยเก็บตก และเร่งสร้างผลงานจากการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของคนใต้ในช่วงนี้เช่นกัน เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ ชวน หลีกภัย ต้องถ่อสังขารลงเรือแจกสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้าน รอ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเก่าแก่ตามไปสมทบ
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะไม่ไปดูดำดูดีก็ใช่เรื่อง ต้องขยับกันพอเป็นพิธี เพราะรู้ดีว่าทำให้ตายยังไงก็ไม่ถูกเลือก จึงเป็นหน้าที่ของพรรคที่วันนี้ยังอยู่ข้างเดียวกันอย่างประชาชาติ หรือพรรคเกิดใหม่อื่น ๆ ไปดูแลในจุดที่เป็นฐานเสียง หวังผลทางการเมืองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นธรรมดาการสร้างภาพจำให้กับประชาชนในภาวะที่ประสบความเดือดร้อน ใครทุ่มเทมากขนาดไหน จริงใจหรือจำใจ ทุกอย่างจะถูกชี้ขาดในวันหย่อนบัตร ซึ่งว่ากันว่าการตัดสินใจของคนใต้ได้เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยส่งเสาไฟฟ้าลงก็ยังเลือก
หลังจากที่ภูมิใจไทยเปิดตัวบ้านใหญ่ทั้งคุณปลื้ม ปิตุเตชะ จากชลบุรีและระยอง พ่วงด้วย วราวุธ ศิลปอาชา ที่นำทีม สส.จากพรรคชาติไทยพัฒนามาสวามิภักดิ์ ก็ใกล้ถึงวาระที่ธรรมนัสจะโชว์ของกันบ้าง 2 ธันวาคมนี้คือฤกษ์ดีที่จ่อใช้ไบเทค บางนา เปิดตัวผู้สมัคร สส.ของกล้าธรรม แสดงตัวชัดเจนมาแต่ต้นหนีไม่พ้น เฉลิมชัย ศรีอ่อน และ เดชอิศม์ ขาวทอง อดีตหัวหน้าและเลขาธิการพรรคเก่าแก่ ที่มาร่วมงานด้วยพร้อม สส.ในสังกัดจากภาคใต้ แว่วมาว่าจะมี ประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนาที่ไม่ได้ไปเปิดตัวกับพรรคสีน้ำเงินก็จะมาสังกัดพรรคของผู้กองมันคือแป้งด้วย
ยังไม่นับรวมบรรดา สส.พรรคเล็กพรรคน้อย และ อีกจำนวนหนึ่งจากเพื่อไทย คนเหล่านี้ไม่ต้องพูดถึงว่ามากันด้วยอุดมการณ์หรืออุดมกล้วย ต้องยอมรับกันว่าความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าที่ฟูลทีมสุด ๆ หนีไม่พ้นพรรคสีน้ำเงิน ขณะที่พรรคของธรรมนัสก็ไม่แพ้กันเพราะไม่ได้พึ่งมาระดมพลังดูดเหมือนที่ภูมิใจไทยทำ เนื่องจาก เพิ่งได้ยาวิเศษมาเป็นตัวเรียกแขก แต่ผู้กองมันคือแป้งอาศัยความใจถึงพึ่งได้ผูกสัมพันธ์กันมาตั้งแต่คราวทำตัวเป็นที่ไว้วางใจของ ทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว เพียงแค่ว่า เปลี่ยนจากดีลที่เคยคุยกันไว้แบบหนึ่ง มาเป็นอีกแบบแถมด้วยข้อเสนอที่เร้าใจเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่พรรคนายใหญ่ จากการทยอยเปิดรายชื่อผู้สมัครจะเห็นได้ว่ามีการถ่ายเลือดใหม่กันไปหลายพื้นที่ พร้อมกับรอประเมิน สส.จำนวนหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนักของข้อเสนอกับทิศทางที่ชัดเจนของผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรค ส่วนหนึ่งมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว หากไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็จะขอเปลี่ยนสีเสื้อเพื่อความอยู่รอด บางส่วนยังกังวลเรื่องกระแสในพื้นที่ แม้จะเห็นว่าสองปีที่เป็นแกนนำรัฐบาลสูญเปล่า แต่ยังเชื่อมั่นว่าด้วยผลงานที่ผ่านมา ถ้าย้ายคอกอาจจะกลายเป็น สส.สอบตกในทันที เรียกได้ว่า ยังมีพวกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกจำนวนไม่น้อย
ไม่เพียงแต่วิเคราะห์ข้อมูลภายในของพรรคเท่านั้น แต่ยังมีการมองไปถึงท่าที ทิศทางของคู่แข่งอย่างพรรคประชาชนด้วย การชิงเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ โดยที่ 2 ใน 3 คือ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค กับ ศิริกัญญา ตันสกุล ยังต้องลุ้นคดีความเรื่องมีส่วนร่วมเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่รอ ป.ป.ช.ชี้ชะตากรรม ถ้าถูกชี้มูลความผิดมีสิทธิถึงขั้นต้องเว้นวรรคทางการเมือง ทำให้มีโอกาสที่จะเหลือ แค่ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เป็นแคนดิเดตหนึ่งเดียว ในแง่ดีกรี ความรู้ความสามารถไม่ธรรมดา แต่ภาพกว้างทางการเมืองยังไม่ถูกตาต้องใจประชาชน
เท่ากับว่า ถ้าพรรคสีส้มไม่สามารถโกยคะแนนเสียงได้ถล่มทลายเหมือนการเลือกตั้งสองหนที่ผ่านมา ถ้าชนะแต่ไม่ขาดโอกาสที่จะรับประทานแห้วในการจัดตั้งรัฐบาลก็มีสูง เว้นเสียแต่ว่าจะรวมตัวกับเพื่อไทยแล้วได้คะแนนเสียงมากกว่าอีกฝ่ายก็มีความเป็นไปได้ที่จะ เดินหน้าเพื่อชักธงรบกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่ภาพนั้นมีความเป็นไปได้น้อย เพราะ อำนาจชี้นำและพลังวิเศษเลือกแล้วว่าต้องการให้ใครมาเป็นรัฐบาล นั่นจะทำให้ผลของการเลือกตั้งถ้าแต่ละพื้นที่ผู้สมัครไม่ชนะกันขาดรอย เราจะได้เห็นฤทธิ์เดชของผู้จัดการเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงให้ผลเป็นไปตามหวยล็อก
สูตรความเสี่ยงที่ว่าพรรคสีน้ำเงินผสมพันธุ์พรรคส้ม ตัวแปรมันอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง ถ้าพรรคหลังเข้าป้ายมาอันดับหนึ่ง จะยอมให้พรรคที่เป็นอันดับรองมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอย่างนั้นหรือ ในทางตรงกันข้าม ถ้าพรรคของอนุรักษ์นิยมคว้าชัยตามเป้าหมาย จะไว้วางใจในการเลือกให้พรรคส้มมาร่วมงานหรือไม่ ภาพของรัฐบาลผสมจึงแทบจะมองกันได้ว่าหน้าตาจะเป็นไปแนวไหน หลังจากการจัดทัพจัดแถวกันเรียบร้อย เห็นไพ่ในมือที่แต่ละพรรคถือ คงจะชี้กันได้ว่าโอกาส ความเป็นไปได้ของสมการการเมืองจะออกมาในรูปแบบใด
อรชุน