กรุงศรี ชี้ SET “ฟื้นตัว” กรอบ 1,231-1,287 จุด แนะเก็บ HMPRO-GLOBAL-PTG เด่น

บล.กรุงศรี ประเมินตลาดสัปดาห์นี้มีโอกาส "ฟื้นตัว" หลังแรงกดดันจากน้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย ขณะที่มาตรการฟื้นฟูและสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินในเอเชียช่วยพยุง Sentiment แนะนำ HMPRO, GLOBAL และ PTG หุ้นเด่น และจับตาชุดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ–จีน–ยุโรป รวมถึงเงินเฟ้อไทยเดือนพ.ย. โดยให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,243–1,231 จุด แนวต้าน 1,274–1,287 จุด


บล.กรุงศรี ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้(1-4ธ.ค.68) คาดดัชนี SET มีแนวโน้ม “ฟื้นตัว” โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 1,243 และ 1,231 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,274 และ 1,287 จุด ตามลำดับ แม้ตลาดไทยยังฟื้นตัวช้ากว่าตลาดหุ้นโลก และยังอยู่ในโซน Deep Value แต่ปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มสะท้อนในราคาไปพอสมควร ขณะที่ผลกระทบคาดว่ามีจำกัด ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักต่อทิศทางนโยบายการเงินโลกและภูมิภาคมากขึ้น

ทั้งนี้ ตลาดยังได้แรงสนับสนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินในเอเชียและไทย รวมถึงมาตรการฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วม และมาตรการภาครัฐเพื่อผลักดัน New S-Curve ในเศรษฐกิจไทย ผสานเข้ากับฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีที่จะช่วยกระตุ้นภาคบริการ หนุนบรรยากาศการลงทุนในหุ้นบางกลุ่ม

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน บล.กรุงศรีแนะนำหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ ได้แก่

HMPRO เป้าหมายปี 2568 ที่ 8.00 บาท รับอานิสงส์ธีมฟื้นฟูหลังอุทกภัย

GLOBAL เป้าหมายปี 2568 ที่ 8.00 บาท อยู่ในธีมฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม

PTG เป้าหมายปี 2568 ที่ 10.00 บาท เป็นหุ้น High Growth ปี 2026F โดยค่าการตลาดเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว

นอกจากนี้ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อธีมการลงทุนไตรมาส 4 ปี 2568 โดยเลือกหุ้นเด่น อาทิ AOT, BJC, CPALL, GULF, HMPRO, IVL, MTC, PTTGC, TOP, WHA และกลุ่ม Small Cap ที่ได้ปัจจัยบวกจากธีมท่องเที่ยวและบริการ เช่น AMATA, CENTEL, ERW, GLOBAL

ด้านปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และยูโรโซน ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ จาก ADP ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และ Core PCE ของสหรัฐฯ ซึ่งจะกำหนดทิศทางการคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด ขณะที่ยุโรปเตรียมรายงานตัวเลข CPI และ PPI รวมถึง GDP ไตรมาส 3/2568

สำหรับปัจจัยในไทย เน้นข้อมูลเงินเฟ้อ CPI เดือนพ.ย. การประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งจะพิจารณามาตรการฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้ มาตรการแก้หนี้ การจัดตั้ง AMC และนโยบาย “เน็ตคนละครึ่ง” รวมถึงรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีแนวโน้มฟื้นตัวจากปัญหาความตึงเครียดด้านการทูตระหว่างญี่ปุ่นและจีน

ด้านฟันด์โฟลว์ต่างชาติในภูมิภาคยังเป็นสัญญาณบวก โดยสัปดาห์ก่อนเงินทุนไหลเข้าเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) รวม 211 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ไทยมีเงินไหลเข้า 2.6 ล้านดอลลาร์ ทั้งในหุ้นและพันธบัตร ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่ามาบริเวณ 32.1 บาทต่อดอลลาร์

Back to top button