“ดาวโจนส์” ปิดลบ 427 จุด หลังบอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลบกว่า 420 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดกระแสเงินทุนไหลออก สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขายต่อเนื่อง ทั้งหุ้นเทค–คริปโทฯ และบิตคอยน์รูดหนักกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบทั้งกระดานในวันจันทร์ (1 ธ.ค.68) หลังเปิดทำการอีกครั้งจากวันหยุดยาว โดยสามดัชนีหลักปรับตัวลงพร้อมกัน ท่ามกลางแรงกดดันจากบอนด์ยีลด์ที่ดีดตัวแรงและภาวะอ่อนแอในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 47,289.33 จุด ลดลง 427.09 จุด หรือ -0.90%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,812.63 จุด ลดลง 36.46 จุด หรือ -0.53%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 23,275.92 จุด ลดลง 89.76 จุด หรือ -0.38%

แรงกดดันสำคัญมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ที่ขยับขึ้นแตะระดับ 4.092% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 กระตุ้นให้กระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง และเพิ่มความกังวลต่อภาระต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจและผู้บริโภค

ด้านราคาบิตคอยน์ ปรับตัวลงแรงกว่า 5% ร่วงกลับมาต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ แตะบริเวณ 85,600 ดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ ถูกเทขายตาม โดยหุ้น Coinbase ปรับตัวลง 4.8% และหุ้น Bitfarms ทรุดตัว 5.7%

สำหรับหุ้น MicroStrategy ผู้ถือครองบิตคอยน์รายใหญ่ของโลก ปิดตลาดลบกว่า 3% ตามทิศทางราคาบิตคอยน์ที่อ่อนแรง แม้แรงขายระหว่างวันจะรุนแรงกว่าระดับปิดตลาด

ด้านหุ้น Intel ปรับตัวลง 1.36% หลังจากบวกแรงกว่า 10% ในวันก่อนหน้า จากกระแสข่าวว่า Apple อาจกลับมาใช้ชิปตระกูล M รุ่นล่างที่ผลิตโดย Intel โดย รอยเตอร์ส รายงานว่า หากความร่วมมือเกิดขึ้นจริง สายการผลิตอาจเริ่มได้เร็วสุดในช่วงไตรมาส 2–3 ปี 2570 อย่างไรก็ตาม ตลาดยังประเมินว่า Apple ยังคงพึ่งพา TSMC ในเทคโนโลยีขั้นสูงอีกหลายปี ทำให้แรงซื้อในหุ้น Intel ชะลอตัวลงในวันถัดมา

ตลาดยังได้รับแรงกระตุ้นจากดีลใหญ่ในอุตสาหกรรม AI หลัง Nvidia ประกาศเข้าซื้อหุ้นของ Synopsys มูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ราคาเฉลี่ย 414.79 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพื่อพัฒนา “AI Engineering Platform” สำหรับเร่งความสามารถด้านออกแบบชิปขั้นสูง ซึ่งผลักดันให้หุ้น Synopsys ปรับขึ้น 4.85% ขณะที่หุ้น Nvidia ปิดบวก 1.65%

นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงรายงานตลาดแรงงานของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจให้สัญญาณเพิ่มเติมต่อทิศทางดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคมนี้

Back to top button